ซิสเตอร์รีเบกก้า เข้ารับอิสลาม โดยที่เธอได้รับการหนุนจากครอบครัว

ซิสเตอร์รีเบกก้า เข้ารับอิสลาม ผู้ได้รับการหนุนจากครอบครัว

ซิสเตอร์รีเบกก้า เข้ารับอิสลามในปี 2008 เธอเล่าว่า พรอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่เธอได้รับ คือ การที่ครอบครัวให้การสนับสนุนเธอแม้เธอจะเปลี่ยนมานับถืออิสลาม
หลังจากเธอเข้ารับอิสลามไม่นาน บิดา-มารดา ของเธอเริ่มหัดถือศีลอดเดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการสนับสนุนลูก และทำความเข้าใจกับศรัทธาใหม่ของเธอ

บิดาของรีเบกก้า เข้าร่วมโครงการ Habitat for Humanity ซึ่งทำให้เขามีเพื่อมุสลิมมากมาย โดยเพื่อนคนหนึ่งเป็นครูสอนชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนสอนศาสนาวันอาทิตย์ที่มัสยิด ในขณะที่รีเบกก้าเข้าเรียนในระดับชั้นอนุบาล พ่อของเธอเริ่มไปเรียนศาสนาด้วย สองพ่อ-ลูก นั่งรถไปด้วยกัน และไปแยกกันที่ลานจอดรถ และพบกันอีกครั้งหลังเลิกเรียนเพื่อขับรถกลับบ้านด้วยกัน “พ่อของฉันเริ่มเรียนละหมาดแล้ว”
เดือนธันวาคม 2009 พ่อล้มหมดสติที่ทำงาน ในรถพยาบาลฉุกเฉิน พ่อของเธอโทร.ไปหาแม่ที่บ้าน แม่ตื่นตระหนกเมื่อได้ทราบข่าวและรีบขับรถไปที่โรงพยาบาล รีเบกก้าจำได้ว่าเธอพูดว่า “พ่ออาจจะเสียชีวิตในวันนี้ แต่พ่อกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับอิสลาม หากพ่อไม่ต้องการที่จะตายอย่างคนนอกศาสนา พ่อต้องกล่าวปฏิญาณตนก่อน”

ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล พ่อของรีเบกก้ากล่าวปฏิญาณตนเป็นมุสลิม ในขณะที่แพทย์ทำการรักษาอาการเลือดตกในจากโรคมะเร็งตับ “พ่อเข้ารับการรักษามะเร็ง และแพทย์ได้ตัดชิ้นเนื้อร้ายออกไป หลังจากนั้นพ่อไม่มีอาการอะไรอีกเลย”
“ตอนนี้พ่อรับอิสลามได้ 10 ปีแล้ว พ่อฉลองด้วยการออกไปกินอาหารเช้ากับกลุ่มเยาวชนของมัสยิด หลังจบชั่วโมงเรียนอัลกุรอานในตอนเช้าตรู่วันเสาร์ ซึ่งแม่ไปร่วมเรียนด้วย”

รีเบกก้า พึงพอใจที่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา พ่อของเธอยุ่งอยู่กับการไปมัสยิด และการเรียนรู้เกี่ยวกับอิสลาม “ฉันรักที่เขาและแม่เติบโตมาพร้อมกันในความศรัทธาและการปฏิบัติในอิสลาม ฉันรู้สึกขอบคุณต่ออัลลอฮฺ ที่ทรงชี้นำทางเราสู่อิสลาม อัลฮัมดุลิลาฮฺ

ที่มา: https://news.muslimthaipost.com/news/34437