อดีตผู้พิพากษาอินเดีย เผยรัฐบาลละเมิดรธน. พังบ้านมุสลิมอำเภอใจ

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์: อดีตผู้พิพากษาอินเดีย เผยรัฐบาลละเมิดรธน. พังบ้านมุสลิมอำเภอใจ

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา อดีตผู้พิพากษาที่มีชื่อเสียง 6 ท่าน และ ทนายความอาวุโสอีก 6 ท่าน ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกที่ส่งถึงหัวหน้าผู้พิพากษาศาลฎีกาของอินเดีย ระบุว่า รัฐบาลในรัฐอุตรประเทศกำลังกระทำการอย่างผิดกฎหมาย โดยรื้อถอนบ้านเรือนของนักรณรงค์ชาวมุสลิม และว่า นี่เป็นการลงโทษที่ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง

อดีตผู้พิพากษา และทนายความอาวุโส เรียกร้องให้ศาลสูงของอินเดีย เร่งดำเนินการเพื่อให้มีการจับกุมผู้ที่ใช้กฎหมู่อันเลวร้าย และควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบเรียบร้อยในรัฐอุตรประเทศ

จดหมายดังกล่าวยังระบุว่า วิธีการที่ตำรวจร่วมมือกับหน่วยงานพัฒนาในการบุกรื้อถอนบ้านเรือน นำไปสู่ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า การรื้อถอนเป็นรูปแบบหนึ่งของการลงโทษแบบวิสามัญ อันเนื่องมาจากนโยบายที่รัฐสั่งการอย่างผิดกฎหมาย

การแสดงความเห็นป้ายร้ายท่านศาสดามุฮัมมัด ของเจ้าหน้าที่สังกัดพรรครัฐบาล BJP ก่อให้เกิดการประท้วงจากหลายประเทศมุสลิมในโลกอิสลาม และนำมาซึ่งการประท้วงจากประชาชนชาวมุสลิมอินเดียเอง โดยเกิดการจัดการรณรงค์ขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ

การประท้วงในรัฐอุตรประเทศ นำมาซึ่งการสั่งให้รื้อถอนบ้านเรือนของมุสลิมที่ถูกกล่าวหาเข้าร่วมในการประท้วง โดยใช้ข้ออ้างที่ว่า บ้านเรือนดังกล่าวปลูกขึ้นอย่างผิดกฎหมาย โดย โยคี อดิตยานัน มุขมนตรีประจำรัฐ เป็นผู้สั่งการให้มีการรื้อถอนเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยบ้านหลังหนึ่งเป็นของ โมฮัมมัด ญาว๊าด นักรณรงค์เพื่อสิทธิของชาวมุสลิม

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กล่าวว่า การรื้อถอนบ้านทำได้เพราะบ้านสร้างขึ้นอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และว่า นายญาว๊าด ไม่ได้ปรากฏตัวเพื่อรับฟังประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ตำรวจยังอ้างว่า นายญาว๊าด มีส่วนร่วมในการก่อเหตุประท้วงที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม อัฟรีน ฟาติมา วัย 24 ปี ลูกสาวของญาว๊าด กล่าวว่า ครอบครัวของเธอไม่ได้ร่วมในการประท้วงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา และเธอปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายบริหารรัฐที่ว่า บ้านของบิดาสร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมาย โดยอ้างหลักฐานที่ว่า บิดาได้จ่ายค่าภาษีบ้านที่อยู่อาศัยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา และครอบครัวของเธอไม่เคยได้รับแจ้งจากหน่วยงานพัฒนาท้องถิ่น ว่าบ้านสร้างขึ้นอย่างผิดกฎหมายแต่อย่างใด และเธอยังกล่าวว่า

“หากบ้านของเราสร้างอย่างผิดกฎหมาย เหตุใดพวกเขาจึงเก็บภาษีจากเราตลอด 20 ปีที่ผ่านมา”

ทนายความของญาว๊าด กล่าวกับสื่อว่า บ้านหลังที่ถูกพังเป็นบ้านของภรรยาญาว๊าด ซึ่งภายใต้พระราชบัญญัติทรัพย์สินตามกฎหมายส่วนบุคคลของชาวมุสลิม “สามีไม่สามารถมีส่วนในทรัพย์สินของภรรยาของเขา” และเนื่องจากญาว๊าดไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินตามกฎหมาย การแจ้งสิ่งใด ๆ จากรัฐในนามของเขา จึงถือว่าเป็นสิ่งไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเขาขอเรียกร้องค่าเสียหาย และค่าปรับเป็นเงินอย่างน้อย 10 ล้านรูปี (ประมาณ 45,553,300.00 บาท)

ที่มา: www.aljazeera.com

https://news.muslimthaipost.com/news/36339