จีนด่าสหรัฐ “นักละเมิดสิทธิมนุษยชนแห่งโลก” เตือนระวัง “การตอบโต้แบบเดียวกัน”

ADMIN

รัฐบาลปักกิ่งประณามสหรัฐ “นักละเมิดสิทธิมนุษยชนรายใหญ่ที่สุดของโลก” และเตือน “การตอบโต้แบบเดียวกัน” หากรัฐบาลวอชิงตันยังไม่ยกเลิกขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ของจีน จากกรณีในซินเจียง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ว่า นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า สหรัฐ คือ “นักละเมิดสิทธิมนุษยชนรายใหญ่ที่สุดของโลก” การกระทำของชาวอเมริกันต่อกลุ่มชาติพันธุ์หรือกลุ่มชนพื้นเมืองในยุคประวัติศาสตร์ “เทียบเท่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และจวบจนถึงปัจจุบัน รัฐบาลวอชิงตันยังคงดำเนินนโยบาย “กดขี่ข่มเหงและเลือกปฏิบัติอย่างเป็นระบบ” ต่อชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน หรือชาวผิวสี

นายหวังกล่าวต่อไปว่า การที่รัฐบาลวอชิงตันประกาศมาตรการฝ่ายเดียว เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลปักกิ่ง โดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้ เท่ากับเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเป็นการแสดงเจตนาต้องการแทรกแซงกิจการภายในของจีน “อย่างร้ายแรง”

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลปักกิ่งขอเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกการขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ของจีน จากกรณีสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ “ทันที” มิเช่นนั้น รัฐบาลปักกิ่ง “พร้อมตอบโต้ในระดับเดียวกัน”

ท่าทีดังกล่าวของจีนเกิดขึ้น หลังนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลปักกิ่ง “ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” กลุ่มชาติพันธุ์ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ และขึ้นบัญชีดำเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลปักกิ่ง “ซึ่งกระทำความผิด” ในเรื่องนี้

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามให้กฎหมายกดดันจีนฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้เมื่อปลายเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว ว่าด้วยการห้ามนำเข้าสินค้าที่ส่งออกมาจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับมะเขือเทศ และฝ้าย เนื่องจาก “ต้องสงสัย” ว่าเป็นสินค้าที่กระบวนการผลิตเกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาส การใช้แรงงานเด็ก และการละเมิดสิทธิมนุษยชน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES

www.dailynews.co.th