ง่วงเพลียตลอดเวลาที่ทํางาน อาจเป็นอาการ Social Jet lag !

ADMIN

ง่วงนอนบ่อย

          รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลาที่ทำงาน เหมือนมีอาการเพลียตลอดทั้งวัน ลักษณะนี้คุ้น ๆ กับอาการ Social Jet lag ที่วัยทำงานส่วนใหญ่กำลังเป็นอยู่ !

          หลายคนอาจรู้จักอาการ Jet lag ว่าเป็นอาการอ่อนเพลียที่เกิดขึ้นหลังการเดินทางข้ามโซนเวลาที่ต่างกันมาก ๆ ซึ่งนาฬิกาในร่างกายอาจปรับตัวตามไม่ทัน แต่แม้จะไม่ได้เดินทางข้ามซีกโลกไปไหน อาการ Jet lag ก็เกิดขึ้นกับคนวัยทำงานได้ โดยที่ทางการแพทย์เรียกอาการง่วงเพลียตลอดทั้งวันนี้ว่า Social Jet lag

ง่วงนอนบ่อย

          ภาวะ Social Jet lag ถูกระบุขึ้นมาครั้งแรกเมื่อปี 2006
โดยเป็นการศึกษาวิจัยจากสถาบันจิตวิทยาการแพทย์ มหาวิทยาลัยแห่งมิวนิก
ประเทศเยอรมนี ซึ่งได้อธิบายภาวะนี้ว่า Social Jet lag
เป็นภาวะที่ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียและง่วงนอนเรื้อรังเนื่องจากการนอนและตื่นผิดเวลาในช่วงวันหยุด

          ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็คือ วัยทำงานส่วนใหญ่มักจะมีตารางเวลาตื่น เวลาทำงาน
และเวลาเข้านอนที่เป็นแพทเทิร์นเดิม ๆ อยู่แล้ว
แต่ในคืนวันศุกร์หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ก็มักจะใช้เวลาในค่ำคืนยาวนานกว่าปกติ
นอนดึกขึ้น ปาร์ตี้คลายเครียดจนเกือบเช้า หรือแม้กระทั่งการนอนยาว ๆ
ในวันหยุดพักผ่อน
ซึ่งรูปแบบการดำเนินชีวิตแบบนี้ส่งผลให้นาฬิกาชีวิตของร่างกายแปรปรวนหนักมาก
คล้ายกับการเดินทางข้ามผ่านโซนเวลาแบบซ้ำไปซ้ำมา
และมันอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้มากกว่าที่คิด

          โดยระดับเบา ภาวะ Social Jet lag
หรือการใช้ชีวิตสวนทางกับนาฬิกาชีวิตแบบนอนดึก ตื่นสาย
อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลียเรื้อรังตามมาในเช้าวันทำงาน
และอาจลากยาวให้รู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลียขณะทำงานได้ทั้งสัปดาห์
นอกจากนี้
Till Roenneberg นักวิจัยจากสถาบันจิตวิทยาการแพทย์ มหาวิทยาลัยแห่งมิวนิก
ยังเผยด้วยว่า ผู้ที่มีภาวะ Social Jet lag จะเสี่ยงต่อโรคอ้วนเพิ่มขึ้น
33%
เนื่องจากความอ่อนเพลียจะลดแรงจูงใจในการเคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลังกาย
และยังอาจทำให้รู้สึกอยากดูแลตัวเองลดลงด้วย
ซึ่งการดูแลตัวเองในที่นี้ก็หมายถึงการเลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพอะไรแนว ๆ
นั้นค่ะ


ง่วงนอนบ่อย

          แต่ที่หนักไปกว่านั้น Roenneberg ยังเผยว่า
ยิ่งเราใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อภาวะ Social Jet lag มากเท่าไร
ร่างกายจะยิ่งต้องการบุหรี่ (ในคนที่สูบบุหรี่อยู่แล้ว) แอลกอฮอล์
(ในคนที่ดื่มอยู่แล้ว) และคาเฟอีนมากขึ้น
ซึ่งก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังอย่างโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ
และที่สำคัญ
การที่รู้สึกง่วงเพลียตลอดทั้งวันยังจะลดประสิทธิภาพการทำงานของเราอีกด้วย

          อย่างไรก็ตาม ภาวะ Social Jet lag
ก็ป้องกันและรักษาได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเราเองค่ะ
โดยสถาบันเวชศาสตร์การนอนแห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Sleep
Medicine) แนะนำว่า เราควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้ 7 ชั่วโมงในทุกวัน
และพยายามเข้านอนและตื่นในเวลาเดียวกันเป็นประจำ
เพื่อเซตนาฬิกาชีวิตให้กลับสู่โหมดปกตินั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
webmd
popsugar
Reader’s digest