คน 3 ประเภทที่จะฟื้นคืนชีพในวันกียามัต โดยที่ใบหน้าของเขามีรัศมี

ADMIN

คน 3 ประเภทที่จะฟื้นคืนชีพในวันกียามัต โดยที่ใบหน้าของเขามีรัศมี

ในวันกียามัตเป็นวันที่น่ากลัวที่สุดสำหรับมนุษย์ เพราะเป็นสุดท้ายของการอยู่บนโลกดุนยา และเป็นที่ความจริงทุกอย่างจะถูกปรากฏขึ้นมา ความเท็จจะมลายหายไป และมนุษย์ทุกคนจะฟื้นคืนชีพ ณ ที่แห่งนี้ “ปาดังมาซาร์”

ในอัลกุรอานก็ได้กล่าวไว้เกี่ยวกับสิ่งนี้ไว้เช่นเดียวกันว่า จะมีมนุษย์ที่ฟื้นคืนชีพด้วยลักษณะสีหน้าที่มีความสุขซึ่งจะแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป ด้วยการกระทำที่ดี อามาลันต่างๆที่เขาได้ปฏิบัติบนโลกดุนยาจึงส่งผลให้เขาฟื้นคืนชีพในลักษณะแบบนี้ ส่วนคนที่กระทำผิดบาปเยอะๆ เขาจะฟื้นคืนชีพในลักษณะที่มีสีหน้าหมองคล้ำและน่ากลัว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่จะฟื้นคืนชีพในลักษณะสีหน้าที่มีความสุข มีแสงรัศมีก็เพราะอามาลันที่เขาได้ปฏิบัติบนโลกดุนยา อามาลันที่เขาปฏิบัติบนโลกดุนยามีดังนี้

1. คนที่ได้ยินเสียงอาซานแล้วรีบไปอาบน้ำละหมาด

คนแรกที่ฟื้นคืนชีพด้วยลักษณะที่มีแสงรัศมีในวันกียามัต คือ คนที่ได้ยินเสียงอาซานแล้วรีบไปอาบน้ำละหมาด ท่านรอซูลลุลลอฮฺ(ซ.ล) ได้กล่าวเกี่ยวกับวันกียามัตที่จะเกิดขึ้น อัลลอฮฺ(ซ.บ) จะรวบรวมคนกลุ่มหนึ่งที่ใบหน้าของเขามีแสงรัศมีเจิดจรัสเปรียบเสมือนดาวที่อยู่บนท้องฟ้าที่ประกายแสงระยิบระยับ บรรดามลาอิกัตเห็นคนกลุ่มนี้ก็ได้ถามพวกเขาว่า “อามาลันอะไรที่พวกเจ้าปฏิบัติขณะที่มีชีวิตบนโลกดุนยา?” คนกลุ่มนี้ก็ตอบว่า “ทุกครั้งที่ฉันได้ยินเสียงอาซาน ฉันจะรีบไปอาบน้ำละหมาดหรือทำความสะอาดร่างกาย” ท่านรอซูลลุลลอฮฺ(ซ.ล) ได้กล่าวในฮาดิษเกี่ยวกับความประเสริฐของเรื่องนี้ไว้เช่นเดียวกัน

ความว่า “เมื่อคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกท่านได้อาบน้ำละหมาดอย่างดีหลังจากนั้นเขาก็เดินทางไปยังมัสญิดไม่มีสิ่งใดเป็นเหตุให้ออกไปนอกจากเพื่อการละหมาดเขาไม่มีจุดประสงค์อื่นใดอีกนอกจากเพื่อจะละหมาดเท่านั้นเขาจะไม่ก้าวออกไปหนึ่งก้าวนอกจากอัลลอฮฺจะยกระดับเขาหนึ่งขั้นและลบล้างหนึ่งความผิดให้เขา กระทั่งเขาได้เข้ามัสญิด” (บันทึกโดย อิบนุมาญะฮฺ เลขที่774)

2. คนที่ขยันละหมาดญะมาอะฮฺและอาบน้ำละหมาดก่อนที่จะได้ยินเสียงอาซานกึกก้องจากมัสญิด

นอกเหนือกลุ่มคนที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะฟื้นคืนชีพด้วยลักษณะที่มีแสงรัศมีในวันกียามัตคือ คนที่ขยันละหมาดญะมาอะฮฺและอาบน้ำละหมาดก่อนที่จะได้ยินเสียงอาซานกึกก้องจากมัสญิด คนกลุ่มนี้ใบหน้าของเขาจะมีแสงรัศมีเจิดจรัสเปรียบเสมือนแสงที่นวลตาของดวงจันทร์ในยามค่ำคืน และบรรดามลาอิกัตได้ถามคนกลุ่มนี้ว่า “พวกเจ้าได้กระทำอะไรบ้าง ขณะที่มีชีวิตบนโลกดุนยา?” คนกลุ่มนี้ก็ตอบว่า “ฉันจะเตียมตัวเพื่อไปละหมาดญะมาอะฮฺ และฉันจะอาบน้ำละหมาดก่อนที่จะได้ยินเสียงอาซานกึกก้องจากมัสญิด” ท่านรอซูลลุลลอฮฺ(ซ.ล) ได้กล่าวในฮาดิษเกี่ยวกับความประเสริฐของเรื่องนี้ไว้เช่นเดียวกัน

ความว่า “เมื่อเขาได้เข้ามัสญิดเขาจะได้รับผลบุญของการละหมาดตราบใดที่การละหมาดได้กักเขาไว้(ให้รอละหมาดจนเสร็จ)” (บันทึกโดยอิบนุมาญะฮฺ เลขที่774)

และฮาดิษอีกบทหนึ่ง ความว่า “การละหมาดญะมาอะฮฺนั้นประเสริฐกว่าละหมาดคนเดียวถึง 27 เท่า” (บันทึกโดย บุคอรีย์ เลขที่609)

3. คนที่ไปมัสญิดเพื่อรอละหมาด และอาบน้ำรอก่อนจะเข้าวักตู

กลุ่มคนสุดท้ายที่จะฟื้นคืนชีพด้วยลักษณะที่มีแสงรัศมีในวันกียามัตคือ คนที่ไปมัสญิดเพื่อรอละหมาด และอาบน้ำก่อนที่จะอาซาน พวกเขาจะมาพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างในเวลากลางวัน และบรรดามลาอิกัต ได้ถามคนกลุ่มนี้ว่า “อามาลันอะไรที่พวกเจ้าปฏิบัติขณะที่มีชีวิตบนโลกดุนยา?” คนกลุ่มนี้ก็ตอบว่า “ฉันไปมัสญิดเพื่อรอละหมาดทุกครั้ง และอาบน้ำรอก่อนจะเข้าวักตู” ดั่งที่ฮาดิษของท่านรอซูลลุลลอฮฺ(ซ.ล) ที่กล่าวถึงความประเสริฐของการไปยังมัสญิดของอัลลอฮฺว่า…

ความว่า “มัสญิดนั้นเป็นบ้านของผู้มีอีมาน หรือเป็นบ้านของผู้ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ”

ความว่า “ใครก็ตามที่จะเดินทางไปสู่มัสญิดหรือจะกลับจากมัสญิดอัลลอฮฺจะเตรียมไว้สำหรับเขาซึ่งสถานที่หนึ่ง (หรือวังหรือบ้านหลังหนึ่งหรือที่พำนัก) ในสวนสวรรค์ในทุกครั้งที่เขาเดินไปสู่มัสญิดหรือกลับจากมัสญิด” (บันทึกโดย อัลบุคอรีย์และมุสลิม)

ความว่า “หากว่าพวกท่านเห็นบางคนที่ชอบไปละหมาดที่มัสญิด (ไปละหมาดมัสยิดเป็นประจำ) พวกท่านจงเป็นพยานให้แก่เขาว่าเขาเป็นมุอฺมิน” (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์)

แปลและเรียบเรียงโดย Karimah, Beritamuslimmag.com

ที่มาข้อมูล infoyunik.com

Beritamuslim