เตรียมพร้อมสำหรับสิบคืนสุดท้าย ค้นหาค่ำคืนอันประเสริฐ

ADMIN

#เตรียมพร้อมสำหรับสิบคืนสุดท้ายและวันที่เหลืออยู่กันเถิดและค้นหาค่ำคืนอันประเสริฐ ???

ทำอิบาดะห์ให้สุดความสามารถและ มีความบริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ พระองค์จะทรงตอบแทนแก่เราอย่างมากมาย

ท่านนบีมุฮัมมัด ซ.ล กล่าวว่า:

“ผู้ใดที่ได้ยืนขึ้น (หมายถึงการทำอิบาดะห์ เช่นการละหมาด ) ในค่ำคืนลัยละตุลก็อดรฺ ด้วยกับความศรัทธา และมีความหวังในผลตอบแทน เขาจะถูกอภัยโทษจากบาปที่ผ่านมาของเขา”
#การเจาะจงคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ?

ชัยคฺมุฮัมมัดศอลิฮ์ อุซัยมีน รอฮิมะฮุ้ลลอฮ ถูกถามว่า:

?️:“คืนลัยละตุ้ลก็อดรฺอยู่ในสิบคืนสุดท้ายหรือไม่? และค่ำคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺจะวนเวียนไปในสิบคืนนี้ หรือไม่ครับ?
ชัยคฺอุซัยมีนได้ตอบว่า:

??:ใช่แล้ว ค่ำคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺอยู่ในสิบคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอน และ (ทัศนะ) ที่ถูกต้องนั้น ก็คือ มันจะวนเวียนไป (ภายใน10คืนนี้)
ดังนั้นแล้วบางที “คืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ” อาจจะอยู่ในค่ำคืนที่ 21 หรือ อยู่ในค่ำคืนที่ 23 อยู่ในค่ำคืนที่ 25 ค่ำคืน 27 ค่ำคืนที่ 29 ก็เป็นได้ และบางทีมันอาจจะอยู่ในค่ำคืนที่เป็นคู่ก็ได้

ทุกค่ำคืนที่กล่าวมานี้เป็นไปได้ที่จะเป็น

“ค่ำคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ” และมนุษย์เราถูกสั่งใช้ให้มีความมุ่งมั่นที่จะ (แสวงหา) ค่ำคืนนี้โดยการละหมาดไม่ว่าจะเป็นการละหมาดกับญะมาอะห์ถ้าหากว่าเขาอยู่ในเมืองที่มีการจัดตั้งญะมาอะห์ขึ้นเขาก็ละหมาดพร้อมกับญะมาอะห์นั้นถือว่าประเสริฐที่สุด นอกจากว่าเขาจะอยู่ในชนบท (ที่ไม่มีญะมาอะห์) เขาก็ควรจะละหมาดแม้ว่าจะคนเดียวก็ตาม

และพึงทราบไว้เช่นเดียวกันว่า บุคคลที่ยืนขึ้น (ละหมาดและทำอิบาดะห์อื่นๆ) ในคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ ด้วยกับศรัทธามั่นและหวังในผลตอบแทน เขาก็ย่อมได้รับความดีงามของค่ำคืนนี้ไม่ว่าเขาจะรู้ถึงค่ำคืนนี้หรือไม่รู้ก็ตาม

สมมุติว่าคนๆ หนึ่งไม่รู้ถึงเครื่องหมายของค่ำคืน

ลัยละตุ้ลก็อดรฺหรือว่าเขาไม่ได้ตื่นในคืนนั้นเพราะการนอนของเขาหรือสาเหตุอื่นจากนี้ แต่ทว่าเขายืนละหมาดด้วยความศรัทธามั่นและหวังในผลตอบแทน แน่นอนอัลลอฮย่อมให้แก่เขาซึ่งสิ่งที่พระองค์ได้ทรงเตรียมไว้ ก็คือ พระองค์จะทรงอภัยโทษให้แก่เขาจากความผิดบาปที่ผ่านมาแม้ว่าเขาจะ (ทำอิบาดะห์) อยู่คนเดียวก็ตาม

และชัยคฺอุซัยมีนได้ถูกถามอีกคำถามหนึ่งในลักษณะเดียวกันว่า:

?️: คืนลัยละตุ้ลก็อดรฺนั้นคงอยู่ในค่ำคืนที่เจาะจงของทุกปี หรือว่ามันย้ายไปมาจากคืนหนึ่ง (ของปีก่อน) ไปอีกคืนหนึ่ง (ของปีถัดไป) ครับ
ชัยคฺได้ตอบว่า

??: คืนลัยละตุ้ลก็อดรฺนั้นไม่เป็นที่สงสัยเลยว่ามันอยู่ในเดือนรอมฎอนเนื่องด้วยคำตรัสของอัลลอฮตะอาลาที่ว่า:

إِنَّا أَنْزَلْنَاهُ فِي لَيْلَةِ الْقَدْرِ

“แท้จริงเราได้ประทานอัลกุรอานลงมาในคืนอัลก็อดรฺ” ซูเราะห์อัลก็อดรฺ อายะที่ 1

และอัลลอฮตะอาลาได้ทรงชี้แจงไว้ในอายะห์อื่นอีกว่า พระองค์ทรงประทานกุรอ่านลงมาในเดือนรอมฎอน พระองค์ทรงตรัสว่า :

شَهْرُ رَمَضَانَ الَّذِي أُنْزِلَ فِيهِ الْقُرْآنُ

“เดือนรอมฏอนนั้น เป็นเดือนที่อัลกรุอานได้ถูกประทานลงมา” ซูเราะห์ อัลบากอเราะห์ อายะห์ที่ 185
และท่านบี ซ.ลได้เคยทำการเอี๊ยะติกาฟในช่วงสิบคืนแรกของรอมฎอนเพื่อแสวงหาคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ หลังจากนั้นท่านก็ได้เอี๊ยะติกาฟต่อในช่วง 10 วันของกลางเดือนหลังจากนั้นท่านก็เห็นว่าคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺนั้นอยู่ในสิบคืนสุดท้ายของรอมฎอน

(รายงานโดยบุคอรี)

หลังจากนั้น บรรดาศอฮาบะห์ของท่านนบีจำนวนหนึ่งต่างเห็นพ้องกันในความฝัน ว่าคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺนั้นอยู่ใน เจ็ดคืนสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ดังนั้นท่านนบีจึงกล่าวว่า: “ฉันเห็นว่าความฝันของพวกท่านนั้นมันสอดคล้องกันในช่วงเจ็ดคืนสุดท้ายดังนั้นใครที่แสวงหามันเขาก็จงแสวงหามันในช่วงเจ็ดคืนสุดท้ายของเดือนรอมาฎอนเถิด (รายงานโดยบุคอรี)

คืนลัยละตุ้ลก็อดรฺมันไม่ได้อยู่ในค่ำคืนที่เจาะจงของทุกๆปี ดังนั้นท่านนบีจึงถูกทำให้เห็นคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺในฝัน ขณะที่ท่านกำลังสุหยูดในน้ำและดินโคลนในตอนเช้าของมัน และคืนดังกล่าวนั้นคือ

คืนที่ 21 (รายงานโดยบุคอรี)

#ฮิกมะห์ของการแสวงหาคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ?

ชัยคฺมุฮัมมัดศอลิฮ์ อุซัยมีน รอฮิมะฮุ้ลลอฮ ได้กล่าวว่า:

“และอัลลลฮฺอัซซะวะญั้ลได้ทรงปกปิดมันไว้ (คืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ) แก่บ่าวของพระองค์เนื่องด้วยฮิกมะห์ที่ยิ่งใหญ่ 2 ประการด้วยกัน

??ฮิกมะห์แรก: แสดงให้เห็นถึงความอุสาหะในการแสวงหาคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺซึ่งเขาได้ขมักขเม้นในทุกๆ ค่ำคืนเผื่อว่าบางทีเขาอาจะได้รู้ถึงมันและอาจจะประสบกับมัน (ในค่ำคืนใดค่ำคืนหนึ่ง) เพราะถ้าหากว่ามันเป็นคืนที่เจาะจงแล้วละก็ก็ย่อมจะไม่พบผู้คน (มากมาย) นอกจากในคืนดังกล่าวเท่านั้นเป็นแน่

??ฮิกมะห์ที่สอง: ผู้คนจะยิ่งปฏิบัติการงานที่ดีเพิ่มมากขึ้นซึ่งพวกเขาได้ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขาและได้รับประโยชน์ด้วยการงานที่เขาได้กระทำ

#เครื่องหมายของคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ?

1. มีแสงสว่างและรัศมีมากในคืนดังกล่าว และเครื่องหมายนี้จะอยู่ในเวลาขณะนั้น (ขณะคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ) จะไม่มีผู้ใดสัมผัสได้นอกจากผู้ที่อยู่บนบกสถานที่ห่างไกลจากแสงสว่างเท่านั้น

2. มีความเงียบสงบ หมายถึง จิตใจสงบนิ่ง และผู้ศรัทธามีความปลาบปลื้มใจ เพราะว่าเขาจะพบกับความผ่อนคลาย ความเงียบสงบ และปลาบปลื้มใจในคืนดังกล่าวนั้นซึ่งมากกว่าสิ่งที่เขาจะพบในค่ำคืนที่เหลือ

3. ผู้รู้บางท่านกล่าวว่า: แท้จริงลมเย็นจะเกิดขึ้นในคืนนั้นอย่างสงบ หมายถึง ไม่มีพายุหรือลมแรงมาในค่ำคืนนี้หากแต่ว่าอากาศจะเหมาะสม

และที่บ่งชี้ถึงสิ่งดังกล่าวเนื่องจากหะดิษของท่านญาบิร ว่า ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า :

“แท้จริงฉันเคยถูกทำให้เห็นคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺหลังจากนั้นฉันก็ถูกทำให้ลืม โดยที่มันอยู่ในช่วง 10 คืนสุดท้าย ซึ่งเป็นคืนที่บรรยากาศแจ่มใส ปลอดโปร่ง ไม่ร้อนและไม่หนาวจัด ราวกับว่าดวงจันทร์ปรากฏขึ้นพร้อมกับดวงดาวของมันโดยที่ชัยตอนของเวลาค่ำคืนจะไม่ออกมาจนกระทั่งรุ่งสาง”

และหะดีษของท่านอุบาดะห์ บิน ศอมิต ท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า :

“แท้จริงสัญลักษณ์ของของคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ คือ ค่ำคืนของมันนั้น ปลอดโปร่ง แจ่มใส ราวกับว่า ดวงจันทร์ได้ส่องแสง สงบนิ่ง เงียบสงัด ไม่เย็นและไม่ร้อนจนเกินไปในค่ำคืนนี้ และดวงดาวต่างๆจะไม่ได้รับอนุญาติที่จะตกลงมาในคืนนี้จนกว่าจะเช้า และเครื่องหมายของมัน(คืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ) คือ ดวงอาทิตย์ในตอนเช้าของมันจะขึ้นอย่างราบเรียบไม่มีแสงจ้าเหมือนเช่นดวงจันทร์ในคืนเต็มดวงและชัยตอนก็ไม่ได้รับอนุญาติให้ออกมาในวันนั้น”

และคำพูดของท่านนบีที่ว่า : “ปลอดโปร่งแจ่มใส” หมายถึง สว่างไสว ไม่ร้อนและไม่เย็นจนเกินไป ไม่มีฝนตกและอากาศหนาวเย็น

4. อัลลอฮจะทรงทำให้มนุษย์เห็นคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺในความฝันเหมือนเช่นที่ได้เกิดขึ้นกับบรรดาศอฮาบะห์บางท่าน

5. คนๆ นั้นจะพบความหอมหวาน และความกะปี้ระเป่าในการละหมาดยามค่ำคืนมากกว่าในค่ำคืนอื่นๆ

ส่วนเครื่องหมายที่ตามมาภายหลัง (ในตอนเช้าของคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ):

ส่วนหนึ่งจากมันก็คือ ดวงอาทิตย์จะขึ้นในตอนเช้าของคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺโดยที่มันไม่มีแสงสว่างจ้าซึ่งไม่เหมือนอย่างที่เคยเป็นในวันต่างๆ ที่เหลือ

และที่บ่งชี้ถึงสิ่งดังกล่าวนี้ คือ หะดิษของท่านอุบัย บินกะอฺ ร่อดิยั้ลลอฮุอันฮุ หะดิษมัรฟูอฺ ว่า :

“และเครื่องหมายของมัน (คืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ) คือ การที่ดวงอาทิตย์ในตอนเช้าของคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺปรากฏขึ้นโดยที่มันไม่มีแสง” รายงานโดยอิมามมุสลิม

?️ : อะไรคือประโยชน์ที่ได้รับจากเครื่องหมายที่ตามมาทีหลังละ ?

?? :เป็นความปิติยินดีของผู้ที่ทุ่มเทอุสาหะในคืนดังกล่าว และความมีอีหม่าน และความเชื่อมั่นที่เข้มแข็ง โดยที่เขาได้ให้ความยิ่งใหญ่กับความหวังของเขาในการงานที่เขาได้ปฏิบัติในคืนดังกล่าว

“และให้เขาวิงวอนขอในค่ำคืนนี้ด้วยกับดุอา”

ที่มีรายงานจากท่านนบีซ.ลที่ว่า :

اللهم إنك عفو تحب العفو فاعف عني

อ่านว่า : อัลลอฮุมมะ อินนะกะ อะฟูวุน ตุฮิบบุ้ลอัฟวะ ฟะอฺฟุอันนี

ความว่า : โอ้อัลลอฮ แท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงให้อภัย พระองค์ทรงชอบการให้อภัยดังนั้นขอพระองค์ให้โปรดให้อภัยแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด.

มีผู้ถามชัยคฺบินบาซ รอฮิมะฮุ้ลลอฮ ว่า:

?️: คนๆ หนึ่งจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาได้ประสบพบกับคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ

??: ท่านนบีซ.ลได้บอกว่า แท้จริงมันนั้น (สัญลักษณ์ของคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺคือ) ดวงอาทิตย์จะขึ้นในตอนเช้าของคืนนั้นโดยที่มันไม่มีแสง

#คนที่พลาดคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ?

ท่านเราะซูลซ.ล กล่าวว่า : “แท้จริงเดือนนี้

(เดือนรอมฎอน) ได้มายังพวกท่านแล้ว และใน

เดือนนี้ มีค่ำคืนหนึ่งที่ดีกว่าหนึ่งพันเดือน หากบุคคลใดพลั้งพลาดจากมัน (พลาดการทำอิบาดะต่างๆ ในค่ำคืนนี้) แท้จริงเขาได้พลั้งพลาดจากความดีงามทั้งหมดของเดือนนี้ไป ไม่มีผู้ที่พลั้งพลาดไปจากความดีของคืนนี้นอกจากผู้ที่อัปโชคเท่านั้น”

รายงานโดย อิบนุมาญะ เชค อัลบานีให้สถานะหะดิษนี้ ฮะซัน ในหนังสือ ศอเฮี๊ยะ อัลญามิอฺ

#ค่ำคืนที่27ของเดือนรอมาฎอน?

ท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ ร.ด เล่าว่า แท้จริงท่านร่อสูลุลลอฮฺ ซ.ล กล่าวเกี่ยวกับสัญญาณของค่ำคืนอัลก็อดรฺว่า

«إنها ليلة سابعة أو تاسعة وعشرين، إن الملائكة تلك الليلة في الأرض أكثر من عدد الحصى»

“มันเป็นค่ำคืนที่ 27 หรือ 29 แท้จริงในค่ำคืนนั้น บรรดามะลาอิกะฮฺจะอยู่บนพื้นดินมากกว่าจำนวนของเม็ดทราย”

และมีรายงานว่าศอฮาบะห์บางท่านเจาะจงค่ำคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺ คือ คืนที่ 27 ศอฮาบะห์ท่านนั้นก็คือ ท่าน อบัย บิน กะอฺ โดยท่านได้กล่าวเกี่ยวกับคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺว่า :

قال أُبيُّ بنُ كَعبٍ رضِيَ اللهُ عنهُ في لَيلةِ القَدْرِ: ((واللهِ، إنِّي لأَعلمُها، وأكثرُ عِلمي هي اللَّيلةُ التي أَمرَنا رسولُ اللهِ صلَّى الله عليه وسلَّمَ بقِيامِها، هي ليلةُ سَبعٍ وعِشرينَ))
رواه مسلم (762

“ขอสาบานต่ออัลลอฮ แท้จริงฉันรู้ถึงมันดี(ลัยละตุ้ลก็อดริ) ฉันคิดว่ามันน่าจะคือคืนที่ท่านร่อซู้ลซ.ล สั่งใช้ให้พวกเรายืนละหมาดคืนนั้น มันก็คือ คืนที่ยี่สิบเจ็ด”
และศอฮาบะห์อีกท่านที่บอกว่าคืนลัยละตุ้ลก็อดรฺคือคืนที่ยี่สิบเจ็ดคือท่าน อบูฮุร็อยเราะฮฺ ร.ด

#ฉะนั้นแล้วเราจะรออะไรออยู่อีก จะรอให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปโดยที่เรากำลังดูหนัง ดูละคร ฟังเพลง เล่นเกมส์ และทำสิ่งไร้สาระอื่นๆ ฯลฯ จนไม่ได้ทำอิบาดะห์อะไรเลยในค่ำคืนนี้กระนั้นหรือ?
วัลอิญาซุบิ้ลละห์….

قلب تجازي لقلب ١ ٤ ٤ ١