
คนขี้อิจฉา มีลักษณะ 3 ประการ คือ
1) นินทาเพื่อนลับหลัง
2) ประจบสอพลอเพื่อนยามใกล้ชิด
3) ดีใจยามเพื่อนตกทุกข์ได้ยาก
ท่านซุบัยรฺ บิน เอาวาม ได้กล่าวว่า
“แท้จริงท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า โรคของประชากรในยุคก่อนพวกท่านได้คืบคลานมายังพวกท่านแล้ว มันคือ ความอิจฉาและความโกรธ ซึ่งมันคือ มีดโกน ฉันมิได้กล่าวว่า มันโกนขน แต่มันจะโกนศาสนา
ขอสาบานต่อผู้ซึ่งชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า พวกท่านทั้งหลายจะไม่ได้เข้าสวรรค์ จนกว่าพวกท่านจะมีศรัทธาเสียก่อน และพวกท่านจะยังไม่ศรัทธา จนกว่าจะรักกัน
พึงทราบเถิด ฉันจะบอกพวกท่านถึงสิ่งที่จะทำให้สิ่งนี้ติดตรึงอยู่กับพวกท่าน นั่นก็คือ พวกท่านจงให้การกล่าวสลามแพร่หลายในระหว่างพวกท่าน”
(รายงานโดยติรมีซีย์)
ความริษยา เป็นโรคร้ายของจิตใจที่นำไปสู่การกระทำที่เสียหายและพฤติกรรมที่ชั่วร้าย มันนำไปสู่ความเกลียดชัง การมีเจตนาร้ายต่อคนอื่น การใส่ร้าย การโกหก และอื่นๆ มันอาจทำให้คนที่ริษยาทำร้ายคนที่เขาริษยาและสามารถนำไปสู่การกระทำฆาตกรรมได้ ความริษยาถูกถือว่า เป็นโรคร้ายที่อันตรายที่สุดอย่างหนึ่งของจิตใจ และเป็นอันตรายที่สุดต่อศาสนาและชีวิตทางโลกของคนผู้นั้น
ท่านนบีมุฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
“จงอย่าริษยากันและกัน จงอย่าเกลียดชังกันและกัน จงอย่าหันหลังให้กันและกัน แต่จงเป็นบ่าวของอัลลอฮฺเหมือนพี่น้องกัน”
อีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอันตรายของความริษยาก็คือ เรื่องราวของกอบีลและฮาบีล สองพี่น้องลูกชายของนบีอาดัม อะลัยฮิสลาม คัมภีร์อัลกุรอานเล่าให้เราได้ทราบว่า กอบีลได้ฆ่าฮาบีลอย่างเหี้ยมโหด เพราะความริษยา ทั้งนี้เนื่องจากอัลลอฮฺทรงรับการพลีถวายของฮาบีล แต่ไม่ทรงรับของกอบีล (ซูเราะฮฺอัลมาอิดะฮฺ 5: 27-28, 30)
ความริษยาที่น่าประณามก็คือ ความไม่ต้องการให้ผู้ถูกริษยาได้ดี ดังนั้น เมื่อใครเกลียดชังสิ่งใด เขาก็จะเจ็บปวดและเป็นทุกข์เพราะสิ่งนั้น ความรู้สึกเช่นนี้จะกลายเป็นโรคร้ายในหัวใจของเขา ถึงขนาดที่ว่าเขาจะมีความสุขก็ต่อเมื่อเขาเห็นคนที่เขาริษยาไม่ได้รับความดี ถึงแม้ว่าเขาเองจะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ ก็ตาม นอกจากความสบายใจที่เห็นคนอื่นไม่ได้ดี
อย่างไรก็ตาม ความเจ็บปวดก็ไม่ได้หมดไปจากคนริษยา เพราะเขาจะต้องคอยเฝ้าติดตามคนที่เขาริษยาอยู่ตลอดเวลา เพื่อความสบายใจที่เห็นคนที่เขาริษยาไม่ได้รับสิ่งดีงาม และบางทีเขาอาจจะต้องเจ็บปวดมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับคนที่ป่วยทางร่างกาย เมื่อคนที่เขาริษยาได้รับความดีงามมากขึ้น
ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า
“ฉันขอสาบานด้วยพระองค์ผู้ทรงกำชีวิตของฉันไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า
พวกท่านจะยังไม่ศรัทธาจนกว่าเขาจะรักเพื่อพี่น้องของเขาเช่นเดียวกับที่เขารักเพื่อตัวของเขาเอง”
(รายงานโดยบุคอรีและมุสลิม)
อับดุลเลาะห์ ชุ่มจำรัส