ให้เงินแม่ใช้ทุกเดือน คือหน้าที่ของลูกทุกคน

ADMIN

✔ เงิน 1000 บาท เลี้ยงหัวใจแม่

อาจารย์ของผมท่านได้ให้เงินเดือนพ่อและแม่เดือนละ1000บาท เป็นประจำทุกเดือนผมสงสัยทำไมต้องให้เงินพ่อแม่เดือนละ 1000. บาท? ในเมื่อแม่ก็อยู่บ้านหลังเดียวกับอาจารย์อยู่แล้วค่าใช้จ่ายสำหรับท่าน อาจารย์ก็จัดการทั้งหมดอยู่แล้ว

วันหนึ่งสบโอกาสผมจึงตัดสินใจ ถามอาจารย์ว่า
“อาจารย์กำลังทำอะไรครับ?”

อาจารย์ตอบว่า

“ผมกำลังตัดรายจ่ายอยู่…ผมต้องจ่ายค่าแม่ครัว คนขับรถ คนสวน ค่าใช้จ่ายในบ้าน และให้แม่อีกเดือนละ 1000 บาท…
ตอนนี้รายได้กับรายจ่ายมันไม่ค่อยสัมพันธ์กัน ต้องตัดรายจ่ายลงบ้าง”

ผมเลยบอกว่า “เงินเดือนที่ให้แม่ 1000 ตัดได้นี่ครับ…อาหาร 3 มื้อ อาจารย์ก็จัดให้ท่านเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ซื้อให้ใหม่ปีละ 3 ชุด ไม่สบาย อาจารย์ก็พาหมอมาฉีดยาให้ คุณแม่ตาบอดไม่ได้ไปไหน ฉะนั้นเงินเดือน 1000 นี่ ตัดได้ครับ”

อาจารย์บอกว่า

“ตัดไม่ได้เด็ดขาด…1000 บาทนี่สำคัญที่สุด เพราะ…เป็นเงินสำหรับเลี้ยงหัวใจแม่!”

ผมฟังแล้วสะอึก!

“เงินเลี้ยงหัวใจแม่”…พวกเราเคยได้ยินไหมครับ ?!??

อาจารย์บอกต่อ

“หัวใจต้องการอาหารที่มาหล่อเลี้ยงให้เอิบอิ่ม เบิกบาน เป็นสุข…

คุณลองนึกดู…คนที่ไม่มีเงินอยู่ในตัวเลยนี่เป็นยังไง? หัวใจมันแฟบ หัวใจมันเหี่ยวเฉา-เหมือนดอกไม้ยามเย็น ใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือนจะรู้ พอเลยวันที่ 25 ไปแล้วนี่ มันเหี่ยวๆ ยังไงชอบกล ไม่มีเงินค่ารถ..ค่าอาหาร..ซื้อข้าวสาร..มันเหี่ยวไปจนถึงสิ้นเดือน

แม่อยู่กับเราก็จริง แต่ถ้าแม่ไม่มีเงินอยู่ในมือนี่ หัวใจท่านเหี่ยว พอถึงวันเงินเดือนออก ทุกคนหน้าบานเหมือนดอกไม้ยามเช้า จิตใจสดชื่นเบิกบาน มีความสุข รับเงินเดือนมาใหม่ๆหน้าสดใส สั่งกาแฟยังเสียงดังฟังชัด

ทุกสิ้นเดือนพอเงินเดือนออก ผมเข้าไปสลามแม่ บอกแม่ว่า วันนี้เงินเดือนออกครับ ผมเอาเงินใส่่มือแม่ 1000บาท แม่ก็ขอดุอาให้ เเล้วเก็บเงินไว้ใต้หมอนไว้อย่างมีความสุข”

1000.-บาท เลี้ยงหัวใจแม่อย่างไร?

วันหนึ่งน้องของอาจารย์พาภรรยาไปคลอดลูก คุณแม่ก็ซื้อทองให้หลานด้วยเงิน 1000 บาทที่เก็บสะสมไว้ ท่านกอดหลานสาว…สวมสร้อยให้พร้อมดุอาให้

พอเด็กคนนี้โตพอพูดได้ มีคนถามว่าสายสร้อยนี้ใครซื้อให้ เด็กก็จะตอบว่า “คุณย่าซื้อให้” ชี้มือไปที่คนตาบอด คนที่ใหญ่ที่สุดในบ้านคือคุณย่า ไม่ใช่พ่อแม่ เพราะเงิน1000 บาท นี่ทำให้คนตาบอดดูน่าเกรงขาม ถ้าคุณแม่ไม่มีเงิน จะรับขวัญหลานได้อย่างไร ? เห็นไหมครับ ?

ไม่ใช่ว่าพอโตขึ้น มีคนถามว่าคนนี้เป็นใคร เด็กบอกว่ายายแก่ตาบอดนี่..มาอาศัยพ่อแม่ฉันอยู่ เห็นหรือยังคุณว่าเงินเดือน 1000 บาทนี่ ทำให้คนแก่ตาบอดมีคุณค่าขึ้นมาได้

วันดีคืนดี แม่ครัวล้างชามเสร็จ คุณแม่ก็บอกให้มานวดขาให้ แม่ครัวหน้ามุ่ยทำงานเหนื่อยยังต้องมานวดให้อีก นั่งขยำๆคว่ำหน้า พอนวดเสร็จคุณย่าหยิบเงินให้ 100 บาท แม่ครัวยิ้มหน้าบาน กล่าวขอบคุณค่ะ วันรุ่งขึ้นพอล้างจานเสร็จรีบวิ่งมานั่งใกล้ๆ… วันนี้นวดอีกไหมคะคุณย่า?

เห็นไหมเงินเดือน 1000 บาท ที่เราให้แม่ของเรามีฤทธิ์ขึ้นมาได้ มีคนมายกมือไหว้ มีคนมาปรนนิบัติ มีคนมานวดให้ ถ้าไม่มีเงินเดือน 1000 บาทนี้แม่เราจะมีฤทธิ์ได้อย่างไร?

..บันไดไปสวรรค์ด้วยเงิน1000 บาท

วันหนึ่ง โต๊ะอิหม่ามมาที่บ้านอาจารย์ หารือจะปรับปรุงห้องน้ำมัสยิดที่ชำรุดทรุดโทรม แม่อาจารย์ได้ยินกวักมือเรียกอาจารย์แล้วคุณแม่ยกหมอนขึ้น นับเงินมา 5000 บาท บอกเอาไปให้โต๊ะอิหม่ามปรับปรุงห้องน้ำ คุณแม่บอกกับอาจารย์ ศอดาเกาะฮ์ญารียะห์กำไรนาน

เห็นมั๊ยว่าเงินเดือน 1000 ที่เราให้เป็นบันไดพาแม่ไปสวรรค์…นี่ถ้าแม่ไม่มีเงินในมือแม่จะได้ทำบุญไหม?

โต๊ะอิหม่ามก็ขอบอกขอบใจพร้อมขอดุอาให้แม่อาจารย์อีก จากนั้นอิหม่ามก็เดินผ่านไปบ้านถัดไป โต๊ะแก่ๆบ้านโน้นกำลังเก็บผ้าอยู่ในบ้าน โต๊ะอิหม่ามตะโกนข้ามรั้ว ทำบุญสร้างห้องน้ำมัสยิดไหมโต๊ะ?

โต๊ะข้างบ้านตอบ “โต๊ะไม่มีเงินหรอก โต๊ะอาศัยลูกสาวเขาอยู่ เดี๋ยวเผื่อลูกสาวเขากลับมาทันจะขอเงินเขาทำบุญให้นะ ” เพราะลูกเค้าไม่ได้ให้เงินเดือนแม่ โต๊ะคนนี้เป็นเพียงแค่คนเก็บผ้าของ ลูกๆ โต๊ะคนนี้ไม่มีเงิน เพราะลูกเอามาเลี้ยงแปะๆ แมะๆไว้ข้างรั้วบ้าน เอาไว้คอยเก็บผ้า!

เป็นยังไงบ้างครับ…เห็นอิทธิฤทธิ์ของเงิน 1000 บาท…

“เงินเลี้ยงหัวใจแม่” แล้วหรือยังครับ

วันนี้เราให้ “เงินเลี้ยงหัวใจแม่” แล้วหรือยัง ?

#แก้ไขบทความให้สอดคล้องกับสังคมมุสลิม

Cr. แว่นตามุสลิม