
5 ประการของอีหม่ามอัลฆอซาลีในการขจัด คุณลักษณะ อุยุบ (ลำพองตน)
5 TIPS IMAM GHAZALI MENYELAMATKAN DARI ‘UJUB
ในหนังสือ บีดายะตุ้ล ฮีดายะฮฺ, อีหม่าม อัลฆอซาลี ได้ระบุว่า อุยุบ (การลำพองตน) คือ โรคชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นในตัวเอง, คนเป็นโรคชนิดนี้ จะรู้สึกมีเกียรติ และใหญ่โต ส่วนคนอื่นๆนั้น เขาจะดูถูก เหยียดหยาม
โดยปกติ ผลจากคุณลักษณะนี้ ตามคำกล่าวของอีหม่ามฆอซาลีย์ คือ การพูดถึงตัวเอง :ชอบที่จะกล่าวว่า ฉันเป็นแบบนี้ ฉันเป็นแบบนั้น ซึ่งไม่ต่างกับ อิบลิส ละนาตุ้ลลอฮฺ ได้กล่าวในขณะที่มันปฏิเสธ คำสั่งของอัลลอฮ์ ในการให้แสดงความเคารพต่อนบีอาดำ “ฉันดีกว่าอาดำ .ท่านสร้างฉันมาจากไฟ และท่านสร้างเขามาจากดิน (ซุเราะ อัลอะฮฺรอฟ 12)
ในมัจลิสต่างๆ,คนที่เป็นโรคอุยุบ จะชอบยกตัวเองให้สูงส่ง พร้อมกับปราถนาที่จะโดดเด่นและอยู่แถวหน้า เสมอ ในขณะพูด หรือ โต้ตอบ
คนประเภทนี้ ไม่เคยคิดจะย่อมแพ้
ในหนังสือ เล่มด้วยกัน อีหม่ามฆอซาลี ได้อธิบาย คุณลักษณะ ตะกับโบร และอุยุบ ด้วยความหมายที่ใกล้เคียงกัน
โดยท่านกล่าวว่า :คนที่ตะกับโบร จะโมโห เมื่อมีคนนาซีฮัต และจะหยาบคาย เมื่อให้คำนาซีฮัตแก่คนอื่น ดังนั้นใครก็ตามที่ถือตัวของเขา ดีกว่า บ่าวคนอื่นๆของอัลลอฮฺ เขาคือ มุตะกับบีร (คนโอหัง)
ฉะนั้น เราจะมีวิธีการอย่างไรในการหลุดออกจากกรงขังแห่งความตะกับโบรนี้ ?.
อีหม่านฆอซาลีได้ให้คำแนะนำ ให้เรากลับไปยังหลักคิด ,โดยจัดระเบียบหลักความคิด
بل ينبغي لك أن تعلم أن الخير من هو خير عند الله في دار الآخرة، وذلك غيب، وهو موقوف على الخاتمة؛ فاعتقادك في نفسك أنك خير من غيرك جهل محض، بل ينبغي ألا تنظر إلى أحد إلا وترى أنه خير منك، وأن الفضل له على نفسك
จำเป็นสำหรับท่าน ในการจะต้องรู้ แท้จริงความดีนั้น คือความดีตามทัศนะของอัลลอฮฺ ในโลกอาคีเราะฮฺ และสิ่งนั้น คือเรื่องที่เร้นลับ (ไม่ถูกรู้) และความดี มันจะหยุดในตอนสุดท้ายของชีวิต ฉันนั้น การเชื่อมั่นว่าในตัวของท่าน ว่าจริงๆตัวของท่านดีกว่าคนอื่นๆ คือ ความโง่เขลายิ่ง แต่ทว่า สมควรยิ่ง ในการที่ท่านไม่มองคนหนึ่งคนใด นอกจากท่านจะต้องมองว่าเขาดีกว่าท่าน และความประเสริฐมากกว่าตัวท่าน
อุยุบ และตะกับบุร เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสองบุคคล คือ ระหว่างตัวท่านเอง และคนอื่นๆ แต่สิ่งที่ถูกเน้นคือ จะจัดระเบียบทางความคิดของตัวเองอย่างไร ให้พ้นจากความรู้สึก ดีกว่า พิเศษกว่าคนอื่นๆ? ซึ่งเรื่องนี้ อีหม่ามฆอซาลีก็ได้ แนะนำเอาใว้ ให้เราได้ปฏิบัติ ดังต่อไปนี้
ประการแรก, เมื่อคนอื่นนั้น คือ เด็กเล็ก ดังนั้น ก็จงตระหนักใว้ว่า เขายังไม่เคยทำมะเซียตต่ออัลลอฮฺ ในขณะตัวของท่านเองนั้นอายุมากกว่า และฝ่าฝื่นต่ออัลลอฮฺมาแล้ว,และไม่เป็นที่สงสัยใดๆเลย ว่าเด็กคนนั้น ดีกว่าตัวท่าน
ประการที่สอง ,เมื่อคนอื่นนั้น คือคนชรา จงคิดสะว่า เขาได้อีบาดะฮฺต่ออัลลอฮฺมาก่อนหน้าท่าน จนกระทั่งสมควรแล้ว ที่เขาจะดีกว่าตัวท่าน
ประการที่สาม เมื่อคนอื่นคือ ผู้ที่มีความรู้ จงถือว่า เขาได้รับความโปรดปราณซึ่งท่านเองไม่ได้รับ และเขาได้บรรลุถึงสิ่งซึ่งท่านเองมิอาจไปถึง และเขารู้ในสิ่งท่านเองไม่รู้ หากเป็นแบบนั้น ท่านจะเทียบ หรือ ดีกว่า เขาได้อย่างไร?
ประการที่4 ,เมื่อคนอื่น คือ คนโง่ จงคิดเสียว่า หากคนโง่ทำมะเซียต เขาก็ทำบนความไม่รู้ ,ส่วนตัวท่านเอง เมื่อกระทำมะเซียต ก็ทำด้วยกับความรู้ สิ่งนี้แหละ จะกลายเป็นหลักฐานมัดตัวท่าน ในวันอาคีเราะฮฺ
ประการที่5, เมื่อคนอื่น คือ กาเฟร จงคิดว่า แท้จริงสภาพช่วงชีวิตสุดท้ายของคนๆหนึ่ง ไม่มีใครรู้ อาจเป็นไปได้ว่า คนกาเฟรนั้น อาจจะเข้ารับอิสลาม แล้วเสียชีวิคในสภาพที่ดี
หากเป็นแบบนี้ ,เขาก็จะออกจากความบาปของเขาที่ผ่านมา เหมือน การออกของเส้นผม จากแป้งขนมปัง ซึ่งง่ายมาก ,ส่วนตัวของท่าน ,อาจเป็นไปได้ ว่าอัลลอฮฺจะทำให้ท่านหลงผิด ในตอนสุดท้ายของชีวิต กลับกลายเป็นผู้ปฏิเสธ และปิดชีวิตของท่าน ด้วยการตายที่เลว
ด้วยเหตุนี้เอง อย่าได้ลำพองตน หรือ หยิ่งยโสโอหัง เพราะท้ายที่สุดแล้ว ท่านเองยังไม่รู้เลยว่า จะเกิดขึ้นอะไรกับตัวท่าน อย่าได้มองว่าตัวเองดีกว่าผู้อื่นเป็นอันขาด ถึงแม้คนๆนั้น คือ คนที่เลวที่สุดในสายตาใครต่อใคร เพราะเขาอาจจะเป็นคนที่ดีที่สุด ในทัศนะของอัลลอฮฺ ก็ได้ จงปิด คุณลักษณะ อุยุบ และตะกับโบร เพราะทั้งสอง ได้สร้างความหายนะแก่คนยุคก่อนหน้าท่านมามากต่อมากแล้ว
_________________
Alhabib Quraisy Baharun
ถอดความ อิบนุอัฟฟาน อัลฮาชีมีย์
เพจ #อุลามะอฺที่ข้าพเจ้ารู้จัก