
ดุอาอฺขอให้มีงานทำ วิธีสมัครงาน เมื่อได้งานแล้วควรทำอย่างไร?
ดุอาอฺขอให้มีงานทำ ขอให้มีคู่ครอง ขอให้มีที่อยู่ ขอให้มีทรัพย์มากขึ้น ขอให้ได้รับความปลอดภัย เป็นดุอาอฺของนบีมูซาที่ท่านได้ขอและอัลลอฮ์ทรงตอบรับดุอาอฺ
ใครที่ต้องการคู่ครอง ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ตกงาน ไม่มีงานทำ ไม่มีทรัพย์ มีความหวาดกลัว รู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย ให้อ่านดุอาอฺต้นนี้
رَبِّ إِنِّي لِمَا أَنْزَلْتَ إِلَيَّ مِنْ خَيْرٍ فَقِيرٌ
คำอ่าน : “ร็อบบิ อินนี ลิมา อันซัลตะ อิลัยยะ มินค็อยริน ฟะกีร”
ความหมาย : “โอ้อัลลอฮ์ แท้จริงความดีใดก็ตามที่พระองค์จะประทานให้นั้น ฉันต้องการมันอย่างมาก”
(จากซูเราะฮ์อัลเกาะศ็อศ อายะฮ์ที่ 24)
ที่มา: อ.นาอีม วงศ์เสงี่ยม
————————————————-
สมัครงานอย่างไรให้ได้งาน เมื่อได้งานแล้วทำอย่างไร ฉบับมุสลิม!!
อัสลามมุอะลัยกุม วะเราะมาตุลลอฮฺ วะบะรอกาตุฮฺ
ช่วงนี้หลายๆคน ก็ใกล้จบการศึกษา จบแล้ว และกำลังหางาน
ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาคือ ทำอย่างไรให้ได้งาน ปัญหาใหญ่เลยนะเนี่ย
จบมาก็เยอะหางานมาก็แยะ ยังไม่ได้ซะที
ทั่วไปก็มีแยะมากมายที่ทำหนังสือแนะนำทิปการสมัครงานต่างๆ ขายเป็นเล่มๆ หรือข้อมูลใน Internet ก็มากโขแนะนำทิปการสมัครงานที่นี่ jobbees.com
อันนี้เป็นคำแนะนำของเขา ในแต่ละตำแหน่งงาน ทางบริษัทผู้สัมภาษณ์ ต้องการคนในคุณสมบัติบุคคลิก และลักษณะที่ต่างๆ กันหรือแม้กระทั่ง ในตำแหน่งงานเดียวกัน ในแต่ละบริษัทที่มีลักษณะงานต่างกันก็ต้องการต่างกันไป ในที่นี้จะบอกคร่าวๆ ถึงการเตรียมตัว,การปฏิบัติตัว และ ข้อควรระวัง ในการสัมภาษณ์ โดยแยกตามตำแหน่งงาน เพื่อให้ท่านนำไปใช้ประกอบในการเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน แต่ไม่ใช่แนะนำให้ท่านแสร้งทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวของท่านเอง จงเป็นตัวของท่านเอง
ดังนั้น annisaa.com
จะมาแนะนำการสมัครงานแบบมุสลิมบ้าง
จุดยืนของเรา อิสลาม
เตะฝุ่นมาก็นาน ไปที่ไหนใครก็ไม่รับซะที ยิ่งมุสลิมเราไว้เครา คลุมฮิญาบ กลายเป็นปัญหาหลักในการสมัครงาน
อย่าให้เรื่องนี้ มาทำให้เราต้องโกนเครา ถอดฮิญาบกันเลย แนะนำว่า เราต้องเอาความสามารถของเราออกมางัดมาให้หมด ยังไม่มีก็เสริมสร้างได้ เพราะมนุษย์นั้นสามารถเรียนรู้ฝึกฝนกันได้
เช่น..
ความสามารถทางคอมพิวเตอร์ ทางภาษา กิจกรรมที่เราเคยเข้าร่วม(เช่นงานอาสาสมัครต่างๆ งานช่วยเหลือสังคมต่างๆ ) เพราะอันนี้เขาสามารถมองเห็นถึงพื้นฐานจิตใจ และความรู้ความสามารถของผู้สมัครงานได้ อาจว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่ถ้าเป็นบริษัทคนไทยทั่วไป อาจไม่สนใจตรงนี้ ผิดกับบริษัทใหญ่ๆและต่างชาติ เพราะเขามองการเข้าร่วมส่งเสริมสิ่งดีๆในสังคม การมีมนุษย์สัมพันธ์ การมีน้ำใจ (เพราะเคยเจอกับตัว เขียนๆเอาไว้ พอบริษัท มีProject ใหม่ๆ เขาจะเอาพวกนี้มาดูว่าใครมีความสามารถอะไร เคยทำอะไรมาบ้าง แล้วก็ถูกดึงไปทำงาน และมีผลต่อเนื่องกับงานเรื่อยมา )
เขียนใน Resume ตามจริง อย่าโมเม เพราะเขาอาจจะทดสอบคุณได้ เมื่อคุณสมบัติเราดี เขาก็จะเรียกคุณสัมภาษณ์เป็นขั้นตอนต่อไป อินชาอัลลอฮฺ
การเลือกบริษัทที่จะทำงาน
มุสลิมทำงานได้หลายๆอย่าง แต่ใช่ว่ามุสลิมจะทำงานได้ทุกอย่าง
โรงงานยาสูบ ธนาคาร โรงงานสุรา โรงเบียร์ต่างๆ ประกันชีวิต บริษัทเงินกู้ อะไรที่เกี่ยวข้องการสิ่งต้องห้ามทางอิสลาม ก็ควรงดละเว้น เพราะเงินเดือนที่คุณได้ก็จะมาจาก สิ่งต้องห้ามทางศาสนา มาจากผลผลิตที่มาศาสนาห้าม สุรา ดอกเบี้ย การพนัน การเข้าไปยุ่งเกี่ยวเท่ากับเป็นการสนับสนุนสิ่งต้องห้าม เงินดีโบนัสแพง กินอยู่สบายในโลกนี้ แต่ดุนยาขาดทุนมหาศาล ยิ่งมีเงินมาก ก็จะถูกสอบสวนมาก คนจนเข้าสวรรค์ก่อนใคร
และมองหาสถานที่ที่ไม่ห่างมัสยิดก็ดีโดยเฉพาะ ชาย เพราะวันศุกร์ต้องไปมัสยิด จะขาดวันศุกร์ติดต่อกัน 3 ครั้งไม่ได้โดยไม่มีเหตุจำเป็น เช่น เจ็บป่วย
แต่บริษัทยิ่งใหญ่โตมากสิ่งที่เป็นมุงกัรแยะ ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงฉลอง งานปีใหม่ งานวันเกิด งานเลี้ยงส่ง สารพัดสารเพ และทุกงานมีสุรา …และอาจที่จะทำให้มุสลิมอาจหลุดได้ เกาะสายเชือกอิสลามแน่นๆ ใช้ฮิกมะฮฺในการขอตัวให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้ :51:
สัมภาษณ์งาน
หลังจากเขียนแนะนำตัวเองใน Resume แล้ว และเลือกบริษัทที่จะสมัครงาน เมื่อเขาเรียกสัมภาษณ์ จะทำอย่างไรให้เขามองที่ความสามารถของเรา รู้ตัวไว้เถิด คุณกำลังเผยแพร่อิสลามอยู่!! ด้วยภาพลักษณ์อิสลามจากตัวของคุณเอง….. ออกจากบ้าน ทุกคนมีชื่อเดียวกันหมด คือ “มุสลิม”
การสัมภาษณ์ก็มีแนะนำแล้ว แต่ทีนี้เมื่อเขาสอบถามเราเรื่องศาสนา คุณมีความพร้อมที่จะพูดกับเขาเรื่องศาสนายังไง เช่น เมื่อเขาเปิดโอกาสให้ถาม คุณจะปล่อยโอกาสนี้ไม่ได้ เรื่องเครา เรื่องฮิญาบ เสริมได้ก็เรื่องละหมาดแต่อันนี้แอบทำได้ ถ้าในสถานที่นั้นมีมุสลิมที่ปฏิบัติดีอยู่ก่อนแล้ว ตรงนี้ย่อมไม่มีปัญหา แต่ถ้าที่นั่น ไม่เคยมีมุสลิมที่แสดงตัวว่านับถืออิสลามอยู่เลย อาจเหนื่อยนิดนึงนะคะ
แต่ดุอาเข้าไว้ ขอพระองค์นำทางที่เหมาะสมกับเรา เราอาจไม่ได้งานที่นี่ เพราะเขาจะให้ถอดฮิญาบ และเราไม่ถอด อัลฮัมดุลิ้ลลา คุณทำหน้าที่ของมุสลิมที่ดีแล้ว อดทนไว้ ความอดทนก็เป็นซุนนะของท่านร่อซูล ศอลลัลลอฮูอะลัยฮิวะซัลลัม ต้องมีสักที่ที่พระองค์ทรงกำหนดให้เรา เราถูกทดสอบว่าเราจะเลือกเอางานโดยละทิ้งแนวทางศาสนาโกนเครา ถอดฮิญาบ หรือจะเลือกศาสนาของพระผู้ทรงสร้าง
ส่วนตัวนั้นสมัครงานครั้งแรก เขาเปิดโอกาสให้สอบถามพูดคุย ยิงเลย “จะเป็นปัญหาไหมหากได้ทำงานที่นี่จะขอคลุมฮิญาบแบบนี้ “คำตอบที่ได้ เขาบอกว่า “อยู่ที่ความสามารถของคุณ เรื่องศาสนาไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือตัวบุคคล ”
และก็ได้งาน ลองไปสมัครที่อื่นก็เหมือนที่นี่ เช่นกัน
กล้าในเรื่องที่ควร ส่วนเรื่องไม่ควรอย่าไปกล้า!!
ส่วนเมื่อได้งานแล้ว
เรื่องละหมาด มุมตรงไหนก็ได้ที่เราสะดวกเช่นในห้องประชุม ข้างโต๊ะทำงาน ข้างตู้เอกสาร ระเบียง มุมที่เราทำละหมาดแล้วคุชัว สงบใจ ใช้เวลาก่อนบ่าย สักสิบนาที ไม่มากและไม่รบกวนเวลางาน ถ้าได้ลองพูดคุยๆดูกับหัวหน้าเราโดยตรงก็จะดี ว่าขออนุญาตละหมาดตรงนั้นตรงนี้นะ เพราะไปทำงานใหม่ๆหลายๆคนไม่กล้าละหมาดเลย หากไม่มีเพื่อนมุสลิมในสถานที่นั้น การเข้าไปทำงานของเรา จะเป็นโอกาสชักชวนมุสลิมที่ไม่ได้ทำละหมาดมาละหมาดด้วย
ในวันศุกร์ไม่มีมัสยิดในรัศมีรอบๆ ที่พอจะใช้เวลาเดินทางไปละหมาดได้เช่น มีอีกจังหวัดเลย หรือ ไปกลับใช้เวลา 2 ชม. ก็ลองรวมตัวมุสลิมตั้งกลุ่มรวมกันใครพอมีความสามารถทางศาสนาก็ขึ้นคุฏบะฮฺกันเองไปเลย (กรุงเทพมีแยะมากมาย ยิ่งสถานที่ราชการมีแทบทั้งนั้น ไม่ไกลมากก็รวมกันไปนั่งรถคันเดียวกันไปละหมาดวันศุกร์)
หรือ บอกกล่าวกับหัวหน้าว่าในวันศุกร์ขอเข้างานเร็วขึ้น แล้วขอเวลาส่วนหนึ่ง ที่เลยบ่ายโมงไปสัก15- 30 นาที ในการเข้างานล่าช้าเพราะไปละหมาดวันศุกร์ และก็ทำงานชดเชยเต็มที่ เขาจะรู้เองว่าการละหมาดไม่ได้ทำประสิทธิภาพการทำงานเราน้อยลง (ตั้งเจตนาดีๆนะคะ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นโอ้อวด )
ทำงานทั้งทีอย่าให้อิสลามกระเด็นออกจากตัวคุณ
– อีกอย่าง อย่าอู้โดยเอาเวลาละหมาดมาแอบอ้าง เพราะบางคนไปละหมาดนานผิดปกติเป็น ชม.ๆ ยังไม่มา เคยมีคนมาสอบถาม ละหมาดจริงๆใช้เวลาเท่าไหร่ เพราะพนักงานเขาหายไปนานๆเป็นชั่วโมง โดยบอกว่าไปละหมาด (แอบไปหลับ)
– และเรื่องการทำน้ำละหมาด อย่าให้ห้องน้ำเขาสกปรกเปียกเลอะเทอะ เตรียมผ้าไปเช็คทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วย ไม่งั้นเขาจะว่าตามหลัง มุสลิม สกปรกเลอะเทอะ!! จะเข้าเฝ้าอัลลอฮฺแต่ดันมีคนบ่นก่นด่าตามหลัง ไม่ดีๆไม่เอาๆ นะคะ เก็บทำความสะอาดให้เรียบร้อยกันด้วยค่ะ
มุสลิมะฮฺ และมุสลิมีน
ให้ระมัดระวังการทำงานดีๆ น้ำเสียงในพูดคุยกับเพศตรงข้าม การวางตัวให้เหมาะสม การแต่งกายและการปะปนกันระหว่างชายหญิง มุสลิมีนก็เช่นกัน เมื่อมีมุสลิมะฮฺทำงานร่วมด้วย ก็ต้องระมัดระวังตัว
และช่วยดูแลสอดส่องตักเตือนกันด้วย
อาหารสำหรับมุสลิม
ถ้าอาหารของมุสลิมไม่มีขายแถวที่ทำงาน ก็หิ้วไปได้ อย่าไปอาย ดีกว่าไปกินของฮะรอม โดยที่เราไม่พยายามดิ้นแก้ไขปัญหาเลย การเอาข้าวเที่ยงไปรับประทานที่ทำงาน เราก็แบ่งปันเพื่อนร่วมงานได้ เขาจะได้รู้จักอิสลามผ่านอาหาร (น้ำใจแบ่งปัน) โดยเฉพาะ ยาม แมสเซนเจอร์ แม่บ้าน เขาเหล่านั้นเงินไม่มาก กินก็ต้องประหยัด บางวันไม่พอจะกินด้วยซ้ำ แบ่งกันไปเถอะ อินชาอัลลอฮฺ เขาอาจจะสนใจอิสลาม มากกว่าอาหารที่คุณแบ่งปัน เป็นโอกาสทำงานศาสนาอีกแล้ว ลุยเลย
ที่ทำงานเก่า เคยหิ้วข้าวไปทานกลางวันทุกวัน จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่นั่น คือกลางวันเอาอาหารมารวมกันแล้วแบ่งกันทาน จากที่นั่งทานคนเดียวๆ คนมามองๆ จากมองขอชิมๆ และลองเอามาทานด้วย จาก 1 เป็น2 จาก สองเป็น 4 8 และ 10 กว่าคน
การเผยแพร่ศาสนาไม่ใช่ต้องเป็นเฉพาะคนที่เรียนด้านศาสนามาเท่านั้น แต่มุสลิมทุกคนทำได้
อิสลามอยู่ในตัวคุณ อยู่ที่ว่าคุณจะทำอะไรเพื่ออิสลามบ้าง
ด้วยความเคารพค่ะ
วัสลามมุอะลัยกุม