มอบเนื้อกุรบานให้คนต่างศาสนิก (ทัศนะอุลามาอฺ)

ADMIN

ตามทัศนะของบรรดาอุลามะมีดังนี้

1. มัซฮับชาฟีอีย์ : ไม่อนุญาตตามทัศนะที่มุตามัต ( ฮารอม) ตามคำกล่าวในตำรานิฮายาตุล มุฮตาจ

( وَلَهُ ) أَيْ الْمُضَحِّي عَنْ نَفْسِهِ إنْ لَمْ يَرْتَدَّ ( الْأَكْلُ مِنْ أُضْحِيَّةِ تَطَوُّعٍ ) … وَخَرَجَ بِمَا مَرَّ مَا لَوْ ضَحَّى عَنْ غَيْرِهِ أَوْ ارْتَدَّ فَلَا يَجُوزُ لَهُ الْأَكْلُ مِنْهَا كَمَا لَا يَجُوزُ إطْعَامُ كَافِرٍ مِنْهَا مُطْلَقًا , وَيُؤْخَذُ مِنْ ذَلِكَ امْتِنَاعُ إعْطَاءِ الْفَقِيرِ وَالْمُهْدَى إلَيْهِ مِنْهَا شَيْئًا لِلْكَافِرِ , إذْ الْقَصْدُ مِنْهَا إرْفَاقُ الْمُسْلِمِينَ بِالْأَكْلِ لِأَنَّهَا ضِيَافَةُ اللَّهِ لَهُمْ فَلَمْ يَجُزْ لَهُمْ تَمْكِينُ غَيْرِهِمْ مِنْهُ لَكِنْ فِي الْمَجْمُوعِ أَنَّ مُقْتَضَى الْمَذْهَبِ الْجَوَازُ …

2. มัซฮัมบาลีย์ : อนุญาต ( ญาอิซ) ตามคำกล่าวของท่าน อิบนุกุดดามะห์

فصل : ويجوز أن يطعم منها كافرا . وبهذا قال الحسن ، وأبو ثور ، وأصحاب الرأي . وقال مالك : غيرهم أحب إلينا . وكره مالك والليث إعطاء النصراني جلد الأضحية . ولنا أنه طعام له أكله فجاز إطعامه للذمي ، كسائر طعامه ، ولأنه صدقة تطوع ، فجاز إطعامها الذمي والأسير ، كسائر صدقة التطوع . فأما الصدقة الواجبة منها ، فلا يجزئ دفعها إلى كافر لأنها صدقة واجبة ، فأشبهت الزكاة ، وكفارة اليمين .

3. มัศฮับมาลีกีย์ : เป็นที่สมควรทำกว่า หากให้แก่มุสลิม

4. มัศฮับฮานาฟีย์ : อนุญาต

ท่านอีหม่าม อันนาวาวีย์ ได้กล่าวว่า

قال ابن المنذر : أجمعت الأمة على جواز إطعام فقراء المسلمين من الأضحية ، واختلفوا في إطعام فقراء أهل الذمة ، فرخص فيه الحسن البصري وأبو حنيفة وأبو ثور ، وقال مالك : غيرهم أحب إلينا . وكره مالك أيضا إعطاء النصراني جلد الأضحية أو شيئا من لحمها ، وكرهه الليث ، قال : فإن طبخ لحمها فلا بأس بأكل الذمي مع المسلمين منه ، هذا كلام ابن المنذر ، ولم أر لأصحابنا كلاما فيه ، ومقتضى المذهب أنه يجوز إطعامهم من أضحية التطوع دون الواجبة والله تعالى أعلم

ความว่า ” ท่าน อิบนุ มุนซิร ได้กล่าวว่า ” ปราชญ์ทั้งหมดมีทัศนะพ้องกันว่า เนื้อกุรบานนั้น สามารถเเจกจ่ายให้คนมุสลิมได้ เเต่บรรดาอุลามะมีทัศนะต่างกัน ท่านฮาซัน อัลบัศรีย์ ท่านอบูฮานีฟะห์ เเละท่าน อบูศูร กล่าวว่าได้ ส่วนท่านอีหม่าม มาลิก เเละท่านอื่นๆ เป็นสิ่งที่ชื่นชอบสำหรับเรา เเละการให้คนคริสต์ หนังสัตว์นั้น เเละส่วนอื่นจากเนื้อนั้น มักรุฮ์ เเละท่าน ลัยส์ กล่าวเช่นกัน หากเอาเนื้อมาปรุงทำอาหาร เเละให้กาฟิรซิมมีย์ (หมายถึงกาเฟรที่อยู่ร่วมภายใต้กฏหมายเดียวกับเรา และไม่มีความเป็นศรัตรูต่อกัน) กิน ก็สามารถกินได้ นี่คือคำกล่าวของท่าน อิบนุ มุนซิร เเละ ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นว่าบรรดานักวิชาการในมัซฮับอัช-ชาฟิอียฺของเรามีคำกล่าว อันใดในเรื่องนี้ และตามข้อชี้ขาดของมัซฮับนั้น เป็นที่อนุญาตในการเลี้ยงอาหารพวกเขา (อะฮฺลุซซิมมะฮฺ) จากเนื้อกุรบานที่เป็นสุนนะฮฺ โดยเนื้อกุรบานที่เป็นวาญิบนั้นไม่อนุญาต วัลลอฮุตะอาลาอะอฺลัม ”

ทั้งหมดอยู่ในบริบทของการฟิรซิมมีย์ ซึ่งเราต้องเข้าใจ กาฟิรมีหลายประเภท

1.กาเฟรหัรบีย์ الكافر الحربي، คือ คนต่างศาสนา ที่เป็นคู่สงครามศาสนากับมุสลิม

2.กาเฟรซิมมีย์ والكافر الذمي، คือ ตนต่างศาสนาที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐอิสลาม ซึ่งรัฐจะต้องดูแล พวกเขาด้วยความยุติธรรม และพวกเขาก็ต้องจ่ายภาษีหัว (ญิซยะฮ)แก่รัฐอิสลาม

3.กาเฟรมุอาฮัด والكافر المعاهَد คือ คนต่างศาสนา ที่ทำสัญญา ไม่รุกรานต่อกัน ไม่ละเมิดซึ่งกันและกัน

4.กาเฟร มุสตะมัน الكافر المستأمن คือ คนต่างศาสนาที่เข้ามาในประเทศอิสลาม เช่นค้าขาย เเต่เข้ามาด้วยความสงบ หรือ คนทีทมุสลิมให้ความสงบสุข

สำคัญ:

1. หากตามคำกล่าวของบรรดาอุลามะที่ได้อ้างองมา กาเฟรบ้านเรานั้น ให้เนื้อกุรบานกับพวกเขาไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาไม่ใช่ซิมมีย์ (กาเฟรที่ยอมทำสัญญาอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐอิสลาม) หากจะให้ก็ซื้อเนื้อต่างหาก เเละบริจาค เช่นคนยากจนที่นับถือศาสนาอื่นๆ

2. หากเป็นกาเฟรซิมมีย์ที่ร่ำรวย ย่อมให้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากประเด็นเขาพูดเรื่องกาเฟรซิมมีย์ที่ยากจน

อย่างไรก็ตาม มีบางนักวิชาการ กล่าวว่า ให้ได้

1. เชคบินบาศ

فالكافر الذي ليس بيننا وبينه حرب كالمستأمن أو المعاهد يعطى من الأضحيَّة ومن الصدقة.

ความว่า ” คนกาฟิรที่ไม่มีระหว่างมุสลิมเเละเขา สงคราม เช่น กาเฟร มุสตะมัน เเละ กาเฟรมุอาฮัด นั้นสามารถให้เนื้อกุรบ่านได้ เเละสิ่งอื่นๆที่เป็นการบริจาคที่วุนัต” ( ที่มา: http://www.alifta.net/fatawa/fatawaDetails.aspx…)

2. ฟัตวา ลุจนะห์ อัดดาอีมะห์ กล่าวว่า ให้ได้

: ” يجوز لنا أن نطعم الكافر المعاهد ، والأسير من لحم الأضحية ، ويجوز إعطاؤه منها لفقره ، أو قرابته ، أو جواره ، أو تأليف قلبه…؛ لعموم قوله تعالى: ( لَا يَنْهَاكُمُ اللَّهُ عَنِ الَّذِينَ لَمْ يُقَاتِلُوكُمْ فِي الدِّينِ وَلَمْ يُخْرِجُوكُمْ مِنْ دِيَارِكُمْ أَنْ تَبَرُّوهُمْ وَتُقْسِطُوا إِلَيْهِمْ إِنَّ اللَّهَ يُحِبُّ الْمُقْسِطِينَ) ، ولأن النبي صلى الله عليه وسلم أمر أسماء بنت أبي بكر رضي الله عنها أن تصل أمها بالمال وهي مشركة في وقت الهدنة

( http://www.alifta.net/fatawa/fatawaDetails.aspx…)

3. ฟัตวาอิยิปต์ ก็มีทัศนะว่า ให้คนต่างศาสนิกได้เช่นกัน เพราะเป็นการสร้่างความสัมพันธ์อันดีงาม เช่น ลูกมุสลิมทำกุรบ่าน เเต่เเม่เป็นพทธ ลูกสามารถให้เนื้อกับเเม่ไปกินได้ ตามทัศนะของอุลามะบ่างท่าน

http://www.dar-alifta.org/AR/ViewIslamicOccasion.aspx…

ดังนั้น หากต้องการให้ดี ไม่ควรให้ เพราะ บรรดาอุลามะมีทัศนะที่ต่างกันระหว่างอนุญาต เเละไม่อนุญาต เเต่ปราชญ์ยุคก่อนมักจะพูดถึงเรื่องกาฟิรซิมมีย์ ซึ่งมีทัศนะที่เเตกต่างกันเเล้ว ดังนั้น หากต้องการปฏิบัติ ควรออกจากทัศนะที่คีลาฟ เเละไปซื้อเนื้อเเยกออกมาบริจาค เพราะ เนื้อกุรบ่านนั้น ปีละครั้งเท่านั้น เรามีอีก 11 เดือนมีเวลาซื้อเนื้อ หรือ เชือดวัว บริจาคให้คนต่างศาสนิก เเละไม่ควรโจมตีทัศนะที่ว่า ไม่สามารถให้ได้ เเล้วอ้างว่า เป็นทัศนะที่เห็นแก่ตัว

เรียบเรียงโดย : Matty Ibnufatim Hamady

เครดิตภาพ : http://i511.photobucket.com , http://www.oknation.net

ที่มา:beritamuslimmag.com