มัสยิด 300 ปี ที่ตะโละมาเนาะ ครั้งหนึ่ง เคยเป็นแหล่งผลิต คัมภีร์อัลกุรอานที่เขียนด้วยมือ

ADMIN

วันนี้เราจะพาคุณไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่ใต้สุดแดนสยาม

จังหวัดนราธิวาสจังหวัดที่ได้ชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ปี 2458

ก่อนอื่นเราจะพาคุณไปรู้จักกับพื้นที่ปลายด้ามขวานแห่งนี้กันก่อนสักเล็กน้อยจังหวัดนราธิวาสแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ มีประชากรราว 5 แสนกว่าคน คำขวัญประจำจังหวัดว่า ทักษิณราชตำหนัก ชนรักศาสนา นราทัศน์เพลินตา ปาโจตรึงใจ แหล่งใหญ่แร่ทอง ลองกองหอมหวาน

สำหรับรอบนี้ จะพาคุณไปสัมผัสสถานที่ที่อาจกล่าวได้ว่าเป็น hidden gem ของสยามอีกแห่งหนึ่ง…

มัสยิด 300 ปี (มัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น หรือ มัสยิดตะโละมาเนาะ) ตั้งอยู่ที่บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ ห่างจากจังหวัดนราธิวาส

มัสยิดเก่าแก่แห่งหมู่บ้านตะโละมาเนาะที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งผลิตคัมภีร์อัลกุรอานที่เขียนด้วยมือ ทั้งนี้ ตามประวัติกล่าวว่านายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จังหวัดปัตตานี เป็นผู้สร้างมัสยิดแห่งนี้ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2167 โดยแรกสร้างนั้นเป็นหลังคามุงใบลาน ต่อมาเปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินเผา ซึ่งปัจจุบันชาวบ้านตะโละมาเนาะยังคงใช้มัสยิดนี้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจอยู่เป็นประจำ

สิ่งที่น่าชมที่สุดของมัสยิด 300 ปีคือลักษณะสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากมัสยิดทั่วไป กล่าวคือ เป็นอาคาร 2 หลังติดต่อกัน สร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง ใช้ไม้สลักแทนตะปู รูปทรงของอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับศิลปะจีน และมลายูที่ได้รับการออกแบบมาอย่างลงตัว ส่วนเด่นที่สุดของอาคาร คือ เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนหออาซานซึ่งมีลักษณะเป็นเก๋งจีน ก็ตั้งอยู่บนหลังคาส่วนหลัง ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ส่วนช่องลมแกะเป็นลวดลาย ใบไม้ ดอกไม้สลับลายจีน

โดยทั่วไปเข้าชมได้บริเวณภายนอกเท่านั้น หากต้องการเข้าชมภายในต้องได้รับอนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้าน

ที่ตั้ง : บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ ห่างจากจังหวัดนราธิวาส ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 จากนั้นแยกที่บ้านบือราแง

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์