ผู้ใดอ่านซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺทุกคืน เขาจะไม่ประสบกับความคับแค้นตลอดไป

ADMIN

ผู้ใดอ่านซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺทุกคืน เขาจะไม่ประสบกับความคับแค้นตลอดไป

จากอิบนุมัสอูด เ(รอฏิยัลลอฮุอันฮุ) เล่าว่า ท่านร่อซูล (ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า “ผู้ใดที่อ่านซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺทุกคืนเขาจะไม่ประสบกับความคับแค้นตลอดไป” ปรากฎว่า อิบนุมัสอูด (รอฏิยัลลอฮุอันฮุ) ได้สั่งให้ลูกสาวของเขาทุกคนอ่านซูเราะฮฺนี้ทุกคน

ยังมีปรากฎฮะดีษต่างๆ หลายรายงานด้วยกันที่อ้างอิงคุณค่าของซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺ

มีรายงานหนึ่งระบุว่า ผู้อ่านซูเราะฮฺอัลฮะดีด(ซูเราะห์ที่ 57) ซูเราะห์อัลวากีอะฮฺ(ซูเราะห์ที่ 56) และซูเราะฮฺอัดร์เราะห์มาน (ซูเราะห์ที่ 55) นั้นเขาจะได้รับการประกาศให้เป็นผู้ที่จะได้อยู่ในสวรรค์ญันนะตุ้ลฟิรเดาซ์

มีรายงานอื่นระบุว่า ท่านรอซูล(ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) กล่าวว่า ซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺ เป็นซูเราะห์แห่งความร่ำรวย ดังนั้นท่านทั้งหลายจงอ่านมัน และจงสอนให้แก่ลูกๆ ของท่านด้วย

มีอีกรายงานหนึ่งว่า ท่านทั้งหลายจงสอนซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺให้แก่ภรรยาของพวกท่าน

มีรายงานจากอาอิซะฮฺ (รอฏิยัลลอฮุอันฮา) เกี่ยวกับการกล่าวเน้นของเธอให้อ่านซูเราะฮฺนี้

“มันช่างเป็นความคิดที่ตกต่ำเหลือเกินสำหรับผู้ที่อ่านเพื่อประโยชน์เพียงเล็กน้อยของโลกนี้ ความจริงแล้ว ถ้าหากอ่านเพื่อความร่ำรวยของจิตใจ และเพื่อโลกหน้าโดยตรงแล้ว ก็จะได้รับผลประโยชน์บนโลกนี้โดยมิต้องร้องขอ

ซูเราะฮฺ อัลวากิอะฮฺ จะกล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับสภาพการณ์ของวันกิยามะฮฺ ยิ่งเราอ่านและศึกษาใคร่ครวญถึงความหมาย ก็จะทำให้เรามีความตักวา ยำเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ เกรงกลัวต่อสภาพของวันกิยามะฮฺ และเชื่อมั่นในการตอบแทนความดีความชั่วในโลกหน้ามากยิ่งขึ้น okmuslim.com หวังว่าเราทุกคนจะพยายาม อ่านซูเราะฮฺอัลวากิอะฮฺกันทุกคืน ทุกบ้านทุกหลังคาเรือน และได้รับริสกีความดีจากอัลลอฮฺทั้งโลกนี้และโลกหน้า..อามีน

56 อัลวากิอะฮ์ (96)

ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงปรานี

[56.1] เมื่อเหตุการณ์ (วันกิยามะฮ์) ได้เกิดขึ้น

[56.2] ไม่มีผู้ปฏิเสธคนใดปฏิเสธต่อเหตุการณ์ของมัน

[56.3] ต่อเหตุการณ์นั้นทำให้ชนกลุ่มหนึ่งต่ำต้อย ชนอีกกลุ่มหนึ่งสูงส่ง

[56.4] เมื่อแผ่นดินถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

[56.5] และบรรดาภูเขาได้แตกสลาย

[56.6] และมันกลายเป็นผุยผงปลิวว่อน

[56.7] และพวกเจ้าจะแยกออกเป็นสามกลุ่ม

[56.8] คือ กลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา) เจ้ารู้ไอย่างไรว่ากลุ่มทางขวาคือใคร?

[56.9] และกลุ่มทางซ้าย (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางซ้ายคือใคร?

[56.10] และกลุ่มแนวหน้า คือกลุ่มแนวหน้า

[56.11] เขาเหล่านั้น คือบรรดาผู้ใกล้ชิด

[56.12] ในสวนสวรรค์หลากหลายแห่งความสุขสำราญ

[56.13] เป็นกลุ่มชนจำนวนมากจากชนรุ่นก่อน ๆ

[56.14] และเป็นกลุ่มชนจำนวนน้อยจากชนรุ่นหลัง ๆ

[56.15] โดยอยู่บนเตียงที่ประดับด้วยทองคำ

[56.16] พวกเขานอนเอกเขนกอยู่บนนั้นโดยผินหน้าเข้าหากัน

[56.17] มีเด็ก ๆ ที่มีอายุเช่นนั้นวนเวียนรับใช้พวกเขาตลอดไป

[56.18] ถ้วยภาชนะใหญ่และแก้วที่มีหู และจอกใส่สุราที่ไหลรินมา

[56.19] พวกเขาจะไม่มึนศีรษะ และไม่หมดสติเมื่อดื่มสุรานั้น

[56.20] และผลไม้หลากชนิด ตามแต่พวกเขาจะเลือกกิน

[56.21] และเนื้อนกที่พวกเขาอยากรับประทาน

[56.22] และหญิงสาวที่มีนัยน์ตาคมสวยงาม

[56.23] ประหนึ่งไข่มุกที่ถูกพิทักษ์รักษาไว้อย่างดี

[56.24] ทั้งนี้เป็นการตอบแทนเนื่องจากความดีที่พวกเขากระทำไว้

[56.25] ในสวนสวรรค์นั้นพวกเขาจะไม่ได้ยินคำพูดที่ไร้สาระ และเป็นบาป

[56.26] เว้นแต่คำกล่าวที่ว่า ศานติ ศานติ

[56.27] และกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา) เจ้ารู้ไอย่างไรว่ากลุ่มทางขวาคือใคร?

[56.28] (พวกเขา) อยู่ภายใต้ต้นพุทราที่ไร้หนาม

[56.29] และต้นกล้วยที่ออกผลเป็นเครือตั้งแต่ยอดจรดโคนต้น (ไม่เห็นลำต้น)

[56.30] และร่มเงาที่แผ่กระจาย

[56.31] และน้ำที่ไหลรินตลอดเวลา

[56.32] และผลไม้อันมากหลาย

[56.33] โดยไม่หมดสิ้นตามฤดูและไม่เป็นที่ต้องห้าม

[56.34] และเตียงนอนที่ถูกยกให้สูงขึ้น

[56.35] แท้จริงเราได้บังเกิดพวกนางเป็นกรณีพิเศษจริง ๆ

[56.36] แล้วเราได้ทำให้พวกนางเป็นสาวพรหมจรรย์

[56.37] เป็นที่น่ารักชื่นชมแก่คู่ครอง อยู่ในวัยสาวคราวเดียวกัน

[56.38] สำหรับกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา)

[56.39] (คือ) กลุ่มชนจากรุ่นก่อน ๆ

[56.40] และกลุ่มชนจากรุ่นหลัง ๆ

[56.41] และกลุ่มทางซ้าย (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางซ้ายคือใคร?

[56.42] อยู่ในลมร้อนและน้ำกำลังเดือด

[56.43] อยู่ใต้ร่มเงาของควันที่ดำทึบ

[56.44] ไม่ร่มเย็นและไม่เป็นที่น่าชื่นชม

[56.45] แท้จริงพวกเขาแต่กาลก่อนนั้นเป็นพวกเจ้าสำราญ

[56.46] และพวกเขาเคยดื้อรั้นในการทำบาปใหญ่ ๆ อยู่เป็นเนือง

[56.47] และพวกเขาเคยกล่าวว่า เมื่อเราตายไปแล้วและเราได้กลายเป็นดินผงและกระดูกป่นแล้ว เราจะถูกให้ฟื้นคนชีพอีกกระนั้นหรือ?

[56.48] และรวมทั้งบรรพบุรุษของเราแต่กาลก่อนนั้นด้วยหรือ?

[56.49] จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริงชนรุ่นก่อน ๆ และรุ่นหลัง ๆ นั้น

[56.50] จะถูกรวบรวมไว้จนกระทั่งถึงวันอันเป็นที่รูกัน (วันกิยามะฮ์)

[56.51] แล้วรวมทั้งพวกเจ้าอีกด้วย โอ้บรรดาผู้หลงผิด บรรดาผู้ปฏิเสธทั้งหลาย

[56.52] แน่นอนพวกเจ้าจะเป็นผู้กินต้นซักกูม

[56.53] และพวกเขาจะใส่มันเข้าไปเต็มท้อง

[56.54] และพวกเขาจะดื่มน้ำกำลังเดือดตามลงไป

[56.55] พวกเขาจะดื่ม (น้ำ) เช่นกับการดื่มของอูฐที่กระหายน้ำจัด

[56.56] นี่คือที่พำนักของพวกเขาในวันแห่งการตอบแทน

[56.57] เรานั้นได้สร้างพวกเจ้าขึ้นมา ไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่เชื่อ (ในวันฟื้นคืนชีพ)

[56.58] พวกเจ้าเห็นสิ่งที่พวกเจ้าหลั่งออกมา (อสุจิ) แล้วมิใช่หรือ?

[56.59] พวกเจ้าสร้างมันขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้สร้าง

[56.60] เรานั้นเป็นผู้กำหนดความตายขึ้นในระหว่างพวกเจ้า และเราก็จะไม่ถูกขัดขวาง

[56.61] ในการที่เราจะเปลี่ยนบุคคลเยี่ยงพวกเจ้า และเราจะให้พวกเจ้าเกิดขึ้นมาอีกในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้

[56.62] และโดยแน่นอน พวกเจ้าได้รู้มาแล้วถึงการเกิดครั้งแรก แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่ใคร่ครวญ

[56.63] พวกเจ้าเห็นสิ่งที่พวกเจ้าหว่านมาแล้วมิใช่หรือ?

[56.64] พวกเจ้าทำให้มันงอกเงยขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอกเงยขึ้นมา?

[56.65] หากเราประสงค์ทำให้มันหักเป็นชิ้น ๆ แล้ว แน่นอนเราก็ย่อมทำมันได้ แล้วพวกเจ้าคงประหลาดใจ

[56.66] (พวกเจ้าจะกล่าวขึ้นว่า) แท้จริงเราได้รับความหายนะแล้ว

[56.67] ไม่เพียงแต่เท่านั้น เรายังขาดแคลนปัจจัยเพาะปลูกอีกด้วย

[56.68] พวกเจ้าเห็นน้ำที่พวกเจ้าดื่มแล้วมิใช่หรือ?

[56.69] พวกเจ้าเป็นผู้หลั่งมันลงมาจากก้อนเมฆหรือว่าเราเป็นผู้หลั่งมันลงมา

[56.70] หากเราประสงค์ เราก็จะทำให้มันเค็มจัด แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่กตัญญู?

[56.71] พวกเจ้าเห็นไฟที่พวกเจ้าจุดขึ้นมาแล้วมิใช่หรือ

[56.72] พวกเจ้าเป็นผู้ทำให้ต้นไม้ของมันงอกเงยขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอกขึ้นมา

[56.73] เราได้ทำให้มันมีขึ้นเพื่อเป็นการเตือนสติและอำนวยประโยชน์แก่ผู้เดินทางรอนแรม

[56.74] ดังนั้น เจ้าจงสดุดีด้วยพระนามแห่งพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เถิด

[56.75] ข้า (อัลลอฮ์) ขอสาบานด้วยตำแหน่งต่าง ๆ ของดวงดาว

[56.76] และแท้จริงมันเป็นการสาบานอันยิ่งใหญ่ หากพวกเจ้ารู้

[56.77] นั่นคือ กุรอานอันทรงเกียรติ

[56.78] ซึ่งอยู่ในบันทึกที่ถูกพิทักษ์รักษาไว้

[56.79] ไม่มีผู้ใดจะแตะต้องอัลกุรอาน นอกจากบรรดาผู้บริสุทธิ์เท่านั้น

[56.80] ถูกประทานลงมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก

[56.81] และด้วยเรื่องนี้ (อัลกุรอาน) กระนั่นหรือที่พวกเจ้าปฏิเสธเย้ยหยัน?

[56.82] และทั้ง ๆ ที่พระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า พวกเจ้าก็ยังคงปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮ์กระนั้นหรือ

[56.83] และเมื่อวิญญาณได้มาถึงคอหอย (กำลังจะตาย) แล้วพวกเจ้าสามารถจะยับยั้งไว้ได้หรือ?

[56.84] และในขณะนั้นพวกเจ้ากำลังมองดูกันอยู่

[56.85] และเรานั้นอยู่ใกล้ชิดเขายิ่งกว่าพวกเจ้า แต่ทว่าพวกเจ้ามองไม่เห็น (มลาอิกะฮ์)

[56.86] หากว่าพวกเจ้ามิได้อยู่ภายใต้อำนาจของผู้ใด และไม่มีพระเจ้าเป็นผู้มีอำนาจเหนือพวกเจ้าแล้ว

[56.87] ไฉนเล่า พวกเจ้าจึงไม่ให้วิญญาณกลับมาสู่ร่างอีก หากพวกเจ้าพูดจริง?

[56.88] สำหรับผู้ที่หากว่าเขา (ผู้ตาย) เป็นผู้ใกล้ชิดกับอัลลอฮ์

[56.89] ดังนั้น ความอิ่มเอิบสดชื่นและสวรรค์อันเป็นที่โปรดปรานจะได้แก่เขา

[56.90] และหากว่าเขาอยู่ในกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา)

[56.91] ดังนั้น ความปลอดภัยก็เป็นของเจ้า ในฐานะเป็นผู้อยู่ในกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา)

[56.92] และหากว่าเขาอยู่ในหมู่ผู้ปฏิเสธ ผู้หลงทาง

[56.93] ดังนั้นสิ่งที่เตรียมไว้สำหรับเขาก็คือน้ำร้อนที่กำลังเดือด

[56.94] และเปลวไฟที่ลุกไหม้

[56.95] แท้จริงนี้แหละคือความจริงที่แน่นอน

[56.96] ดังนั้น เจ้าจงสดุดีด้วยพระนามพระเจ้าของเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เถิด./

บทความโดย okmuslim.com