แอบรักผู้หญิงคนหนึ่งและติดต่อกับเธอก่อนแต่งงาน หลักการอิสลามว่าอย่างไร?

ADMIN

แอบรักผู้หญิงคนหนึ่งและติดต่อกับเธอก่อนแต่งงาน หลักการอิสลามว่าอย่างไร?

ตอบคำถามโดย ชัยคฺ มุฮัมมัด ศอลิหฺ อัล มุนัจญิด

อัสมาอฺ แปลและเรียบเรียง

คำถาม ผมเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่ตกหลุมรักลูกสาวของเพื่อนบ้าน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นเวลาสองปีแล้ว โดยที่เธอไม่รู้ และผมก็ไม่ได้บอกเธอ หรือใครในครอบครัวของผม และผมก็ไม่เคยนัดพบเธอที่ไหน ผมเพียงแต่หวังว่า สักวันหนึ่งเธอจะมาเป็นภรรยาของผม ต่อมาผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่ทำให้ผมได้รับบาดเจ็บสาหัส และเกือบจะพิการเสียด้วยซ้ำ ผมจึงกังวลมาก เพราะความใฝ่ฝันที่ผมจะแต่งงานกับเธอ แทบจะมลายหายสิ้น แต่แล้วน้องสาวของผม ก็ขอร้องผมให้บอกเธอ อย่างตรงไปตรงมา ถึงสิ่งที่ทำให้ผมเป็นกังวล ผมจึงเล่าน้องสาวถึงสิ่งที่อยู่ในใจผม

น้องสาวบอกผมว่า เธอจะบอกเธอถึงความรักของผมที่มีต่อเธอ เพื่อที่เธอจะได้ตัดสิน เรื่องที่เซอร์ไพรส์มากคือ เธอก็ชอบผมเหมือนกัน จากนั้นเราก็เริ่มส่งจดหมายรัก โต้ตอบกันผ่านน้องสาวของผม สองปีต่อมาผมจึงขอเธอแต่งงาน และเธอก็ตกลง อัลฮัมดุลลิ้ลลาฮฺ 1 ปีจากนั้น ได้แต่งงานกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และในช่วงเวลาก่อนแต่งงานนั้น ผมเพียงแค่มองเธอจากไกลๆ เนื่องจากครอบครัวของเธอ เป็นเพื่อนบ้านของผม และผมจะพบเธอโดยเหตุบังเอิญ ผมไม่เคยพูดกับเธอเลยก่อนถึงคืนแต่งงาน ฉันได้ยินมาว่า เนื่องจากว่าความรักของเรา ที่มีต่อกัน ทำให้เราต้องกระทำบาป คำพูดนี้ถูกต้องหรือไม่? และจะลบล้างบาปนี้ได้อย่างไร?

คำตอบ ประการแรก ขออัลลอฮฺทรงตอบแทนรางวัล ให้กับคุณ เนื่องจากการทดสอบ ที่ประสบกับคุณ และโปรดเพิ่มความรัก ระหว่างคุณกับภรรยาของคุณด้วยเถิด

ประการที่สอง บุคคลหนึ่ง ไม่สามารถตำหนิความรัก ที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียอันใด อย่างเช่นถ้าเขามองผู้หญิงคนหนึ่ง โดยเหตุบังเอิญ และหัวใจของเขา ก็เต็มไปด้วยความรักที่มีต่อเธอ แต่เขาก็ไม่ได้กระทำสิ่งหะรอมใดๆ อย่างเช่นการมองซ้ำแล้วซ้ำอีก การจับมือถือแขน การอยู่กับเธอเพียงลำพัง หรือการพูดจาฉอเลาะกับเธอ ส่วนความรักที่เกิดจากการมองหลายๆครั้ง การคุลวะฮฺ (การอยู่ด้วยกันสองต่อสอง) หรือการติดต่อกันโดยจดหมาย คนที่ทำสิ่งนั้น กำลังกระทำบาป โดยขยายขอบเขตสิ่งต้องห้าม ในความสัมพันธ์ และความรักของเขา

ประการที่สาม การติดต่อกันทางจดหมายระหว่างเพศ ถือว่าไม่อนุญาต เพราะว่าปลุกปั่นให้เกิดความเสื่อมเสีย และมักจะก่อเกิดความเสียหาย ถ้าผู้ชายคนหนึ่งติดต่อกับผู้หญิ งที่ไม่ใช่มะหฺรอมทางจดหมาย ซึ่งไม่มีใครรับรู้ จะนำไปสู่ความไม่ดีต่างๆ มากมาย อิสลามห้ามผู้หญิงกับผู้ชาย ที่ไม่ใช่มะหรอมของเธอ อยู่สองต่อสอง เนื่องจากฟิตนะฮฺ (ความเสื่อมเสีย) และสิ่งที่เลวร้ายที่เป็นผลเกิดตามมา เช่น ความดึงดูด และความปรารถนาที่มอง และสัมผัสต้องตัวกัน ทั้งหมดนี้ เป็นผลที่เกิดจากผู้ชายคุยกับผู้หญิงทางจดหมาย หรือการสนทนาส่วนตัว โดยเฉพาะถ้าพวกเขาเป็นเด็กหนุ่มสาว และอยู่ในช่วงที่มีอารมณ์พลุ้งพล่าน

ชัยคฺ ญิบรีน เราะฮิมาฮุลลอฮฺ ถูกถามว่า อะไรคือกฎเกณฑ์ในเรื่องการติดต่อกัน ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ถ้าหากการติดต่อกันนี้ ปลอดจากการผิดศีลธรรม ความรักและความปรารถนา ?

เขาตอบว่า “มันไม่เป็นที่อนุญาตสำหรับใครก็ตาม ที่ติดต่อกับผู้หญิง ที่ไม่ได้เป็นมะหฺรอม เนื่องจากว่าความเสื่อมเสีย เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น คนหนึ่งอาจคิดว่าไม่มีความเสื่อเสีย แต่ชัยฎอนจะพยายาม จนกระทั่งเขาได้ล่อลวงเขาผ่านเธอ และล่อลวงเธอผ่านเขา ท่านนบี ศ็อลลัลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม บอกกับชายคนหนึ่ง ที่ฟังเรื่องดัจญาล เพื่อที่จะระวังจากมัน และท่านกล่าวว่า ชายคนหนึ่งอาจปรากฏตัว ในฐานะผู้ศรัทธา แต่ดัจญาลพยายาม จนกระทั่งมันได้ล่อลวงเขา และทำให้เขาสับสน”

มีความเสื่อมเสีย และอันตรายมากมาย ในการติดต่อระหว่างชายหญิง นั่นหมายความว่า จะต้องหลีกห่าง แม้ว่าผู้ถามจะบอกว่า ไม่มีความรัก และความปรารถนาใดๆ เกี่ยวข้อง (อ้างจาก ฟะตาวา อัล มัรอะฮฺ)

ผู้หญิงนั้น ถูกห้ามให้พูดคุยกับผู้ชาย ที่ไม่ใช่มะหฺรอมอย่างหวานเยิ้ม ดังที่อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงกล่าวว่า “…อย่าได้พูดจาเพราะพริ้งนัก เพราะจะทำให้ผู้ที่หัวใจของเขา มีโรค เกิดความโลภ แต่จงพูดด้วยถ้อยคำ ที่พอเหมาะพอควร” อัล อะหฺซาบ 32

และมันเป็นเรื่องหะรอม สำหรับผู้ชายที่เพลิดเพลิน กับการฟังเสียงของผู้หญิง ที่ไม่ใช่มะหฺรอม

การที่น้องสาวของคุณ ทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง (หรือที่เรียกกันว่า แม่สื่อ) ส่งจดหมาย นับว่าเป็นความผิดอีกประการหนึ่ง เนื่องจากกำลังกระตุ้นให้เธอ เข้าไปพัวพันในเรื่องทำนองนี้
จากที่กล่าวมา คุณจะต้องทำการกลับเนื้อกลับตัว ต่ออัลลอฺ คุณจะต้องกระทำความดี ให้มากๆ อย่างอื่น นอกเหนือกว่านี้ ไม่จำเป็นต้องทำ วัลลอฮุ อะอฺลัม

ที่มา http://www.islam.in.th