ดุอาอฺสำหรับผู้ที่โดนญิน โดนของ และโดนสายตาที่อิจฉา

ADMIN

ดุอาอฺสำหรับผู้ที่โดนญิน โดนของ และโดนสายตาที่อิจฉา
 
     การรักษานั้นมาจากพระองค์ หน้าที่เราในฐานะบ่าวของอัลลอฮฺคือ ต้องเชื่อมั่นต่ออัลลอฮฺ ไม่ท้อแท้สิ้นหวัง มีความบริสุทธิ์ใจ พยายามอย่างดีที่สุด และถูกต้องตามหลักการศาสนา ส่วนจะหายหรือไม่อยู่ที่พระประสงค์ของพระองค์

 

1. ซูเราะห์ ฟาติฮะห์

ความว่า

     1- ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

     2- การสรรเสริญทั้งหลายนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮฺผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก

     3- ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

     4- ผู้ทรงอภิสิทธิ์แห่งวันตอบแทน

     5- เฉพาะพระองค์เท่านั้นที่พวกข้าพระองค์เคารพอิบาดะฮฺ และเฉพาะพระองค์เท่านั้นที่พวกข้าพระองค์ขอความช่วยเหลือ

     6- ขอพระองค์ทรงแนะนำพวกข้าพระองค์ซึ่งทางอันเที่ยงตรง

     7- (คือ) ทางของบรรดาผู้ที่พระองค์ได้ทรงโปรดปราณแก่พวกเขา มิใช่ในทางของพวกที่ถูกกริ้ว และมิใช่ทางของพวกที่หลงผิด

 

2. ซูเราะห์ บากอเราะห์ อายะห์ 102

 

ความว่า

     102- และพวกเขาได้ปฏิบัติตามสิ่งที่บรรดาชัยฏอน ในสมัยสุลัยมานอ่านให้ฟัง และสุลัยมานหาได้ปฏิเสธการศรัทธาไม่ แต่ทว่าชัยฏอนเหล่านั้นต่างหากที่ปฏิเสธการศรัทธา โดยสอนประชาชนซึ่งวิชาไสยศาสตร์และสิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่มะลาอิกะฮ์ทั้งสอง คือ ฮารูต และมารูต ณ เมืองบาบิล และเขาทั้งสองจะไม่สอนให้แก่ผู้ใดจนกว่าจะกล่าวว่า แท้จริงเราเพียงเป็นผู้ทดสอบเท่านั้น ท่านจงอย่าปฏิเสธการศรัทธาเลย แล้วเขาเหล่านั้นก็ศึกษาจากเขาทั้งสอง สิ่งที่พวกเขาจะใช้มันยังความแตกแยกระหว่างบุคคลกับภรรยาของเขา และพวกเขาไม่อาจทำให้สิ่งนั้นเป็นอันตรายแก่ผู้ใดได้ นอกจากด้วยการอนุมัติของอัลลอฮฺเท่านั้น และพวกเขาก็เรียนสิ่งที่เป็นโทษแก่พวกเขา และมิใช่เป็นคุณแก่พวกเขา และแท้จริงนั้นพวกเขารู้แล้วว่าแน่นอนผู้ที่ซื้อมันไว้นั้น ในปรโลกก็ย่อมไม่มีส่วนได้ใด ๆ และแน่นอนเป็นสิ่งที่ชั่วช้าจริง ๆ ที่พวกเขาขายตัวของพวกเขาด้วยสิ่งนั้น หากพวกเขารู้

 

3. อายะห์ กุรซียฺ (ซูเราะห์ บากอเราะห์ อายะห์ 255)

 

ดุอาอฺสำหรับผู้ที่โดนญิน โดนของ และโดนสายตาที่อิจฉา

 

ความว่า

     255- อัลลอฮ์นั้น คือ ไม่มีผู้ที่เป็นที่เคารพสักการะใด ๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น ผู้ทรงมีชีวิต ผุ้ทรงบริหารกิจการทั้งหลายโดยที่การง่วงนอน และการนอนหลับใด ๆ จะไม่เอาพระองค์ สิ่งที่อยู่ในบรรดาชั้นฟ้าและสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นของพระองค์ ใครเล่าคือผู้ที่จะขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้อื่น ณ ที่พระองค์ได้ นอกจากด้วยอนุมัติของพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงรู้สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา และพวกเขาจะไม่ล้อมสิ่งใด จากความรู้ของพระองค์ไว้ได้ นอกจากสิ่งที่พระองค์ประสงค์เท่านั้น เก้าอี้พระองค์นั้นกว้างขวางทั่วชั้นฟ้าทั้งหลายและแผ่นดินและการรักษามันทั้งสองก็ไม่เป็นภาระหนักแก่พระองค์ และพระองค์นั้นคือผู้ทรงสูงส่ง ผู้ทรงยิ่งใหญ่

 

4. ซูเราะห์ อัลอะอฺรอฟ อายะห์ 117-119

  

ความว่า

     117- และเราได้มีโองการแก่มูซาว่า จงโยนไม้เท้าของเจ้า แล้วทันใด มันก็กลืนสิ่งที่พวกเขาลวงตาไว้

     118- และความจริงก็ได้เกิดขึ้น และสิ่งที่พวกเขากระทำกันขึ้นก็ตกไป

     119- แล้วที่นั่นแหละพวกเขาก็ได้รับความพ่ายแพ้ และกลายเป็นผู้ต่ำต้อย

 

5. ซูเราะห์ ยูนุส อายะห์ 79 – 82

 

ความว่า

     79- และฟิรเอาน์ได้กล่าวว่า “พวกท่านจงนำมาให้ฉัน นักวิทยากลผู้เชี่ยวชาญทุกคน”

     80- เมื่อนักวิทยากลมาแล้ว มูซาได้กล่าวกับพวกเขาว่า “พวกท่านจงโยนสิ่งที่พวกท่านนำมาเพื่อจะโยนเถิด”

     81- เมื่อพวกเขาได้โยนไปแล้ว มูซาได้กล่าวว่า “สิ่งที่พวกท่านนำมานั้นคือวิทยากล แท้จริงอัลลอฮ์จะทรงทำลายมัน แท้จริงอัลลอฮ์จะไม่ทรงทำให้การงานของบรรดาผู้บ่อนทำลายดีขึ้น”

     82- และอัลลอฮ์จะทรงให้สัจธรรมยืนหยัดอยู่ ด้วยคำกล่าวของพระองค์ และแม้ว่าบรรดาคนชั่วจะเกลียดชังก็ตาม

 

6. ซูเราะห์ ตอฮา อายะห์ 65 – 69

 

ความว่า

     65- พวกเขากล่าวว่า “โอ้ มูซาเอ๋ย ! ท่านจะเป็นผู้โยนหรือว่าพวกเราจะเป็นผู้โยนก่อน”

     66- มูซากล่าวว่า “แต่ว่าพวกท่านจงโยนก่อนเถิด” ณ บัดนั้น เชือกและไม้เท้าของพวกเขาดูประหนึ่งว่ามันเลื้อยคลานไปมาเพราะเล่ห์กลของพวกเขา

     67- มูซาจึงรู้สึกกลัวขึ้นในตัวของเขา

     68- เรากล่าวว่า “เจ้าอย่ากลัว แท้จริง เจ้าอยู่ในสภาพที่เหนือกว่า”

     69- “และเจ้าจงโยนสิ่งที่อยู่ในมือขวาของเจ้า มันจะกลืนสิ่งที่พวกเขาทำขึ้น แท้จริงสิ่งที่พวกเขาทำขึ้นนั้นเป็นแผนของนักมายากล และนักมายากลนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าเขาจะมาจากทางไหนก็ตาม”

 

7. ซูเราะห์ อัลกาฟีรูน (กุลยา)

 

ความว่า

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

     1- จงกล่าวเถิด มุฮัมมัดว่า โอ้บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเอ๋ย

     2- ฉันจะไม่เคารพภักดีสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดีอยู่

     3- และพวกท่านก็ไม่ใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี

     4- และฉันก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดี

     5- และพวกท่านก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี

     6- สำหรับพวกท่านก็คือศาสนาของพวกท่าน และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน

 

8. ซูเราะห์ อัล-อิคลาศ

 

ความว่า

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

     1- จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ

     2- อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่ง

     3- พระองค์ไม่ประสูติ และไม่ทรงถูกประสูติ

     4- และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์

 

9. ซูเราะห์ อัล-ฟาลัก

 

ความว่า

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

     1- จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระเจ้าแห่งรุ่งอรุณ

     2- ให้พ้นจากความชั่วร้ายที่พระองค์ได้ทรงบันดาลขึ้น

     3- และจากความชั่วร้ายแห่งความมืดของเวลากลางคืนเมื่อมันแผ่คลุม

     4- และจากความชั่วร้ายของบรรดาผู้เสกเป่าในปมเงื่อน

     5- และจากความชั่วร้ายของผู้อิจฉาเมื่อเขาอิจฉา

 

10. ซูเราะห์ อันนาซ

 

ความว่า

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ

     1- จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด ข้าพระองค์ขอความคุ้มครองต่อพระเจ้าแห่งมนุษย์ชาติ

     2- พระราชาแห่งมนุษย์ชาติ

     3- พระเป็นเจ้าแห่งมนุษย์ชาติ

     4- ให้พ้นจากความชั่วร้ายของผู้กระซิบกระซาบที่หลอกล่อ

     5- ที่กระซิบกระซาบในหัวอกของมนุษย์

     6- จากหมู่ญินและมนุษย์

 

ที่มา: มุสลิมไทยโพสต์