รู้หรือไม่ กัปตัน Jack Sparrow คือฮีโร่มุสลิม

ADMIN

กัปตัน ‘แจ๊ค สแปโรว์’ คือ ฮีโร่มุสลิม 

กัปตัน แจ๊ค สแปโรว์ (Jack Sparrow) ตัวจริง จริงๆแล้วเป็นผู้ศรัทธาชาวมุสลิม ชื่อจริงๆ ของเขาคือ กัปตัน แจ๊ค วาร์ท ( Captain Jack Ward) และเขาก็เป็นที่รู้จักในชื่อ แจ๊ค เบิร์ดดี้ ด้วย (Jack Birdy) เขาได้ละทิ้งโบสคริสเตียน เมื่อเขาได้เข้ารับนับอิสลามในปลายศตวรรษที่ 16 ลูกเรือของเขาทั้งหมดก็ได้เปลี่ยนมาเข้ารับนับถืออิสลามเช่นกัน. กัปตัน แจ๊ค เบิร์ดดี้ เป็นคนที่ชื่นชอบและสนใจนกกระจอกเป็นอย่างมากในช่วงที่เขาใช้ชีวิตอยู่ใน ตูนีเซีย (ช่วงที่หลบซ่อนจากรัฐบาลอังกฤษ) ส่วนมากที่คนในชุมชนที่นั้นชอบเรียกเขาว่า แจ๊ค  “อัสฟะฮ์” ซึ่งในภาษาอาหรับแปลว่า นกกระจอก และนี่เป็นที่มาของ ชื่อที่ว่า กัปตัน แจ๊ค สแปโรว์

ชื่อในภาษาอาหรับของเขาคือ ยูซุฟ เรอิส เขาได้แต่งงานกับหญิงสาวชาวคริสเตียนที่ผู้ซึ่งเปลี่ยนมารับนับถือศาสนาอิสลาม นาม เจซซี่มีน่า ชาว ซิซีเลี่ยน (ชื่อเมืองของเกาะทางใต้ในประเทสอิตาลี่) ขณะที่กัปตัน แจ๊ก เบิร์ดดี้ เป็นที่รู้จักันว่า สุดยอดขี้เมา จากนั้นเขาได้หยุดการดื่มสุราอย่างเด็ดขาดหลังจากได้ที่เข้ารับอิสลาม  เขาได้มีส่วนช่วยอย่างมากในการช่วยเหลือชาวยิวและมุสลิมนับพันที่หลบหนีจากการไล่ล่าล้างเผ่าพันธุ์ในช่วงศตวรรษที่ 16 ถึง 17 โดยพวกชาวคริสเตียนหัวรุนแรง (อีกหนึ่งความจริงที่คุณอาจจะไม่รู้)และยังมีอีกที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับที่ผมกำลังจะบอก รู้มั้ยว่าไม่มีภาพลักษณ์ที่ดีของความเป็นอิสลามปรากฎอยู่ในภาพยนต์ฮอลลีวูดให้เราได้เห็นเลย ไม่มีอะไรเลยแม้กระทั่งแก่นหรือรากแท้ของความเป็นบุรุษชาวมุสลิมที่ยิ่งใหญ่ให้เห็นเลย  เพราะว่าโดนบิดเบือน และถูกลบจากประวัติศาสตร์ หรือว่าที่จริงแล้วคนทำหนังกลัวที่จะเปิดเผยอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ที่เกี่ยวของกับความเป็นอิสลาม)

เพราะว่าบางทีมันอาจจะไปปลุกจิตสำนึกที่หลับไหลของชาวมุสลิมเกี่ยวกับตำนานในอดีตเมื่อนานมาแล้วของพวกเค้า ให้ผู้คนได้รู้ว่าจริงๆมุสลิมไม่ใช่พวกที่ชอบรุกรานผู้อื่น แต่ที่จริงมีต้นกำเนิดที่ยิ่งใหญ่โดยที่บรรพบุรุษของพวกเขาเป็นฮีโร่ผู้เกรียงไกรและยังมีหน้าประวัติศาสตร์จารึกที่ว่าต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหงจากศาสนาอื่น

แต่ฮอลลีวูดขโมยฮีโร่ของพวกเราทันใดนั้นเปลี่ยนพวกเขาเป็น คนขาว และเป็น พวกแองโกล(พวกฝรั่งคนขาวจมูกโด่ง เช่น คนยุโรป อเมริกัน รัซเซีย หน้าเค้าคล้ายๆกันหมด) แต่ ฮอลลีวูด แสดงภาพของมุสลิมว่าเป็นพวกมุสลิมสุดโต่งว่าพวกเราเป็น พวกคลั่งลัทธิ ผู้ก่อการร้าย และยังเผยแพร่สุดเกินบรรยายข้ามจอโลกที่ว่าเป็นพวกบ้าหลั่งเคารพบูชาความรุนแรงและเป็นศาสนาแห่งความรุนแรง

 คนมุสลิมที่ช่วยเหลือชาวมุสลิมและชาวยิวให้รอดพ้นจากการฆ่าล้างชาติพันธุ์ของชาวคริสเตียน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นขาวคริสยุโรปเรื่องราวความเป็นมุสลิมของเขาถูกลบออก พูดกันสั้นๆ พวกเขาแต่งเติมบุคลิค ลักษณะนิสัยให้แก่เราชาวมุสลิม  พวกเราไม่มีสิทธ์พูดไม่ว่าจะอย่างไร  ผลกระทบคือไม่แตกต่างจากผลกระทบที่เคยมีต่อทาสคนดำ หรือ ชนเผ่าพื้นเมืองดั่งเดิมของดินแดนอเมริกัน เมื่อพวกเขามีค่าเท่ากันหมดไม่ว่าจะถูกฆ่าตายหรือนำเอามาเป็นทาส  ทั้งโลกรู้สึกสะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา และ หลังจากผ่านพ้นไปสักพัก พวกเขามองเห็นตัวเองว่าตัวเองนั้นไม่เข้ากับสิ่งที่เป็นอยู่ ณ โลก ปัจจุบันและ สภาพจิตใจตกต่ำ อ่อนแอกว่า ผู้ทำกดขี่ข่มเหงเค้า ทำให้ความเชื่อมั่นและความแข็งแกร่งหายไป ซึ่งเหมือนกับมุสลิม ณ ทุกวันนี้

สิ่งเหล่านี้ไม่อาจเกิดได้ถ้าเราได้มีการสอนลูกหลานเราเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เข้าใจมันอย่างถ่องแท้และรุ่นสู่รุ่น อย่างไรก็ตาม มัสยิดของพวกเรา ผู้รู้ และ ผู้ที่ไม่สนใจการเมืองหรือคนธรรมดา ทุกวันนี้ที่มีการสอนมีแต่เรื่องที่ว่ามุสลิมไม่ได้สนใจเรื่องจริยธรรมและคุณธรรมอะไรทั้งสิ้น ยักษ์ใหญ่ในอิสลามพวกเค้าอยากให้อิสลามเป็นเรื่องเล็กๆไม่มีความสำคัญอะไรมากนัก สอนว่าอิสลามไม่เคยมีฮีโร่  ราวกับว่าเมื่อศาสดาได้จากไป มุสลิมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือหลังจาก 1500 ปี เรื่องราวของอาณาจักรในโลกมุสลิมนั้นมีสุขเกินที่จะรับได้ แต่หารู้มั้ยว่ากว่าจะมาเป็นอาณาจักรอิสลามนั้นได้ต้องดิ้นรนต่อสู่กับความชั่วร้ายมามากเท่าไหน  เยาวชนมุสลิมทุกวันนี้ไม่มีใครอยากเป็นเหมือน กัปตัน แจ๊ก สแปโรว์ รุ่นต่อไปเพราะว่าเราไม่มีคนที่เหมาะสมและมีค่าควรจะเป็น ผู้ยิ่งใหญ่สเหมือน แจ๊ค อีกแล้ว แต่แทนที่ด้วยว่าเด็กมุสลิมถูกสอนให้ถกเถียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น เสื้อผ้าแบบไหนที่เราควรสวมใส่ ,เท้าข้างไหนที่จะต้องใช้ก้าวเข้าห้องน้ำ เราสามารถ อ่าน อามีนเสียงดังได้มั้ย

จริยธรรมและอุดมการอันยิ่งใหญ่ของอิสลามถูกกีดกันว่าเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยแทนที่ด้วยคุณธรรมอันดีซึ่งคือเหตุที่อิสลามนำมาสู่โลก

แต่วันนี้เราต้องฟื้นฟูจริยธรรมอันยิ่งใหญ่ของอิสลามเรากลับคืนมา อย่างที่โลกมุลิมถูกโหมกระหน่ำอีกครั้งด้วยความชั่วร้ายจากโลกตะวันตกและไฟนรกที่คอยแทรกซึมมาจากอำนาจจากต่างชาติ เราต้องการวีรบุรุษ เราต้องการผู้กล้า ที่มากกว่า เศาะลาฮุดดีน อัลอัยยูบี (Salah-ud-deen Ayubi)  มากกว่า คอลิด บิน วาลีด (Kalid Bin Waleed) มากกว่ามัลคอม เอ็กซ์ (Malcolm X’) และมากกว่า กัปตัน แจ๊ก สแปโรว์

มันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องฟื้นฟู หน้าประวัติศาสตร์อันเกรียงไกรของนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพและนำวิถีชีวิตอันสงบสุขของเรากลับมา มากกว่าการสอนอิสลามที่บอกเราว่าให้นั่งเฉยๆและถกเถียงกันในเรื่องเล็กๆน้อยๆในขณะที่โลกและอุมมะฮฺของเราถูกทำร้ายและสังหาร

เขียนโดย MPACK and more

ข้อมูลจาก MPACUK or Muslim Public Affairs Committee UK

ข้อมูลเพิ่มเติม : http://en.wikipedia.org/wiki/Jack_Ward

                       http://www.beliefnet.com/columnists/cityofbrass/2012/04/captain-jack-sparrow-was-based-on-a-real-muslim-pirate.html