ผู้ชายละหมาดที่บ้านได้ไหม?(ขี้เกียจไปมัสยิด)

ADMIN

ผู้ชายละหมาดที่บ้านได้ไหม?(ขี้เกียจไปมัสยิด)

ถาม : อะไรคือฮุก่มของการละหมาดฟัรฎูที่บ้านทั้งๆที่รู้ถึงความประเสริฐของการละหมาดญะมาอะห์ที่มัสญิด แต่ทำไมขี้เกียจไป?

ตอบ : การที่ท่านสุภาพบุรุษได้ไปละหมาดร่วมกับพี่น้องร่วมศาสนาของเขาในบ้านของอัลลอฮฺ ซึ่งก็คือมัสญิดนั้น ถือเป็นความจำเป็นถ้าเขามีความสามรถที่จะกระทำได้ ในเมื่อเขาได้ยินเสียงอะซาน เพราะอัลลอฮฺอัซซ่ะว่ะญัลตรัสว่า:”และพวกเจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด จ่ายซะกาตและจงรุกั๊วอฺร่วมกับบรรดาผู้รุกั๊วอฺ” [อัลบะกอเราะห์:43]

ความหมายของอายะห์นี้คือจงละหมาดร่วมกับบรรดาผู้ละหมาด และอัลลอฮฺตรัสอีกว่า:

“ในบ้านต่างๆที่อัลลอฮฺอนุญาตให้สถาปนาขึ้นและพระนามของพระองค์จะถูกกล่าวถึงในบ้านเหล่านั้น มีบรรดาชายชาตรีทำการสดุดีสรรเสริญพระองค์ในบ้านเหล่านั้นทั้งยามเช้าและยามเย็น การค้าการขายมิได้ทำให้พวกเขาเผลอเรอจากการรำลึกนึกถึงอัลลอฮฺ การดำรงละหมาดและการจ่ายซะกาตเลย พวกเขากลัวในวันหนึ่งที่หัวใจจะเต้นตูมตามและสายตาของเขานั้นจะเหลือกลาน “[อันนูร36,37]

และท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิว่ะซัลลัมกล่าวว่า:”ใครได้ยินเสียงเรียก(อะซาน)แล้วไม่มา ก็ไม่มีละหมาดสำหรับเขา นอกจากถ้ามีอุปสรรค “บันทึกโดยอิบนุมาญะห์:793

ท่านอิบนุอับบาสถูกถามว่า:แล้วอุปสรรคที่ว่านั้นคือ อะไร?

ท่านตอบว่า:(ความหวาดกลัวกับการป่วย)

และอิหม่ามมุสลิมได้บันทึกไว้ในหนังสือเศาะเฮียฮฺของท่านว่า:(มีชายตาบอดคนหนึ่งกล่าวว่า: โอ้ท่านรอซูลุลลอฮฺฉันไม่มีคนจูงไปมัสญิด?ฉันพอจะมีข้อผ่อนผันให้ละหมาดที่บ้านของฉันได้ไหม?

ท่านนบีศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิว่ะซัลลัมจึงกล่าวกับเขาว่า: เจ้าได้ยินเสียงเรียกสู่การละหมาดหรือไม่?

เขาตอบว่า:ได้ยินครับ.ท่านนบีจึงกล่าวว่า:ถ้าเช่นนั้นก็จงตอบสนอง(การเรียกนั้น)[มุสลิม:653]

และ ท่านอิหม่ามมุสลิมได้รายงานอีกว่า ท่านอับดุลลอฮฺ บินมัสอู๊ด ร่อฎิยัลลอฮุอันฮฺ กล่าวว่า:(ใครปรารถนาจะกลับไปพบอัลลอฮฺในวันพรุ่งนี้ในสภาพที่เป็นมุสลิมเขาจงรักษาละหมาดทั้งห้าเวลานี้ ณ ที่ซึ่งมีเสียงเรียก(อะซาน) เพราะแน่แท้อัลลอฮฺได้ทรงบัญญัติแก่นบีของพวกท่าน ซึ่งเป็นแบบอย่างแห่งแก่พวกท่านไปสู่ทางนำ และมัน(ละหมาดเหล่านี้)เป็นหนึ่งในบรรดาสิ่งที่จะนำไปสู่ทางนำ และหากพวกเจ้าต่างละหมาดกันที่บ้านของพวกเจ้า ดั่งเช่นคนมักง่ายเพราะคนพวกนี้จะละหมาดที่บ้านของเขา และแน่นอน(ใครที่ละหมาดที่บ้าน)แท้จริงพวกเจ้าได้ละทิ้งแนวทางของนบีของพวกเจ้าเสียแล้ว และหากพวกเจ้าละทิ้งแนวทางของนบีของพวกเจ้า ก็แน่นอนว่าพวกเจ้าได้หลงทางแล้ว และขอยืนยันว่าฉันได้เคยเห็นผู้คนในหมู่พวเรา(หมายถึงบรรดาเศาะฮาบะห์ในยุคที่นบียังมีชีวิตอยู่) ไม่มีใครทิ้ง (การละหมาดญะมาอะห์)เลย นอกจากมุนาฟิกเท่านั้นที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ถึงการนิฟ้าก(หน้าไหว้หลังหลอก)ของพวกเขา

และแน่แท้ชาย(ที่มีอีหม่าน)คนหนึ่ง(เขาจะไปมัสยิด)ถึงแม้เขาจะโดนหิ้วปีกขนาบข้าง ด้วยชายสองคนประคองไปจนกระทั่งได้ยืนในแถว(ละหมาด) และฮาดีษทำนองนี้อีกมากมาย ฉันขอสั่งเสียมุสลิมทุกคนให้มีความยำเกรงต่ออัลลอฮฺ ดำรงรักษาไว้ซึ่งการละหมาดญะมาอะห์ และจงระวังอย่าได้เลียนแบบบรรดามุนาฟิก ที่ชอบละทิ้งละหมาดญะมาอะห์ ขออัลลอฮฺทรงประทานความสำเร็จให้แก่ฉันและบรรดามุสลิมทุกคน ขอพระองค์ทรงพอพระทัยพวกเรา และทำให้เราปลอดภัยจากปัจจัยต่างๆที่จะนำเราไปสู่ความโกรธกริ้วของพระองค์ แท้จริงพระองค์ทรงได้ยินทรงอยู่ใกล้

ชัยคฺบินบ๊าซ

อ.อะหมัด โต๊ะทิง