ความมหัศจรรย์ของการกินผลไม้ ที่กล่าวไว้ในอัลกุรอาน

ความมหัศจรรย์กุรอานกับการกินผลไม้ ทุกคนคงคิดว่า การกินผลไม้นั้นจะกินยังไง เมื่อไหร่ก็ได้เพราะผลไม้นั้นมีประโยชน์อยู่แล้ว ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด การกินผลไม้ที่ถูกต้องนั้นไม่ควรกินหลังอาหารอย่างที่เราทำกันเป็นประจำเพราะเข้าใจว่าผลไม้จะช่วยล้างปาก วิธีการกินผลไม้ที่ถูกต้องนั้น มีดังนี้1. ควรกินในขณะที่ท้องว่างเพราะช่วยให้ลำไส้สามารถดูดซึมวิตามินได้อย่างเต็มที่ และมันช่วยล้างพิษในร่างกาย ให้พลังงานในช่วงที่ลดน้ำหนักได้ดีเหมาะสำหรับคุณผู้หญิงที่กำลังลดน้ำหนัก

กินก่อนอาหารเพราะผลไม้นั้นย่อยเร็วกว่าอาหารเช่น ขนมปัง และ เนื้อสัตว์ ถ้าหากเรากินอาหารก่อนแล้วกินผลไม้ ซึ่งอาหารเหล่านี้ต้องใช้เวลานานกว่ากะเพาะอาหารจะทำการย่อยแล้วไหลลงสู่ลำไส้เพราะฉนั้นถ้าหากเรากินผลไม้ตามไป ผลไม้นั้นจะไปสะสมที่กะเพาะแล้วเกิดเป็นกรดขึ้นทำให้อาหารบูดเน่า เราจะสังเกตได้ว่าจะมีอาการเรอหลังกินแตงโม หรือ อยากไปห้องน้ำหลังกินกล้วย ผลการทดลองการกินผลไม้

1. กินผลไม้ก่อนแล้วตามด้วยอาหารนั้นปรากฎว่า กากของเสียที่ออกมาหลังการขับถ่าย ออกมาแบบปกติปกติ ไม่ค่อยมีกลิ่นเหม็น

2. กินอาหารก่อนแล้วตามด้วยผลไม้นั้นปรากฏว่า กากของเสียที่ออกมาหลังการขับถ่าย ออกมาแบบอาการท้องเสียและเหม็นเน่ามากๆ ส่วนผลไม้ที่ไม่ควรทานก่อนอาหารก็มี มะเขือเทศ กับ สับประรด เพราะมีความเป็นกรดมาก อาจจะกัดกะเพาะได้ ข้อมูลเหล่านี้เพิ่งถูกค้นพบได้ไม่นานนี้ แต่อัลกุรอานได้บอก และชี้แนะมาเมื่อ 1400 กว่าปีก่อนแล้วอัลลอฮ (ซ.บ.) ได้ตรัสว่า :

و لحم طيرٍ مما يشتهون . و فاكهة مما يتخيرون سورة الواقعة 20-21

ความว่า : และผลไม้หลากชนิด ตามแต่พวกเขาจะเลือกกิน และเนื้อนกที่พวกเขาอยากรับประทานและอีกอายะฮฺหนึ่ง

22 و أمددناهم بفاكهة و لحمٍ مما يشتهون سورة الطور

ความว่า : และเราจะเพิ่มพูนให้แก่พวกเขา ซึ่งผลไม้และเนื้อตามที่พวกเขาต้องการพี่น้องจะสังเกตได้ว่า อัลลอฮฺได้เอาผลไม้ขึ้นก่อน แล้วตามด้วยเนื้อ นี่เป็นอีกหนึ่งในความมหัศจรรย์ของอัลกุรอานที่มนุษย์เพิ่งค้นพบ ส่วนผลไม้ที่ไม่ควรทานก่อนอาหาร คือ มะเขือเทศ กับ สับประรด เพราะมีความเป็นกรดมาก อาจจะกัดกะเพาะได้

จากข้อมูลทางการแพทย์ พบว่า ผลไม้บางอย่างที่ไม่ควรกินเวลาท้องว่างนั่นคือ กล้วยหอม เพราะจะทำให้ท้องอืด และก็ยังจะเพิ่มธาตุแมกนีเซียมในเลือดให้สูงขึ้นทำให้สูญเสียสัดส่วนของแคลเซียม และแมกนีเซียมซึ่งเป็นการยับยั้งการทำงานของหลอดเลือดหัวใจ อันเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก

ที่มา: www.sunnahstudent.com