เมื่อไปเยี่ยมคนป่วย ให้อ่านดุอาอฺนี้

ADMIN

ดุอาอฺเมื่อเยี่ยมผู้ป่วย ที่ยังไม่ถึงขั้นใกล้เสียชีวิต

กล่าวดุอาให้ 7 ครั้ง ความว่า

أَسْأَلُ اللَّهَ الْعَظِيمَ رَبَّ الْعَرْشِ الْعَظِيمِ أَنْ يَشْفِيَكَ

“อัสอะลุลลอฮัลอะซีม ร็อบบัลอัรชิลอะซีม อัยยัชฟิยะก้า”

ความหมาย “ฉันวอนขอต่ออัลเลาะฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ผู้ทรงเป็นผู้อภิบาลแห่งบัลลังก์ที่ยิ่งใหญ่ พระองค์โปรดทรงทำให้ท่านหายป่วยด้วยเถิด”วิธีที่ 2 ให้เอามือขวาวางไว้ที่ผู้ป่วย แล้วกล่าว อะอูซุบิลลาฮิมิชชัยฏอนิรร่อญิม

แล้วขอดุอาว่า

اللَّهُمَّ رَبَّ النَّاسِ أَذْهِبِ الْبَأْسَ اشْفِهِ وَأَنْتَ الشَّافِي لَا شِفَاءَ إِلَّا شِفَاؤُكَ شِفَاءً لَا يُغَادِرُ سَقَمًا

“อัลลอฮุ้มม่า ร็อบบันนาสี้ อัซฺฮิบิลบะอฺซ่า อิชฟิฮี้ วะอันตัชชาฟี ลาชิฟาอ้า อิลลา ชิฟาอุ้ก้า ชิฟาอัน ลา ยุฆอดิรุ่ ซะก่อมัน”

ความ หมาย “โอ้อัลลอฮ์ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแห่งมนุษย์ชาติ โปรดทรงทำให้ความทุกข์ร้อนหายไปด้วยเถิด พระองค์โปรดทรงทำให้เขาหายป่วยด้วยเถิด และพระองค์ผู้ทรงบำบัดให้หาย ซึ่งไม่มีการบำบัดใดนอกจากการบำบัดของพระองค์ เป็นการบำบัดที่ไม่ทิ้งความเจ็บป่วยไว้”รายงานจากท่านอิบนุอับบาส ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ความว่า

عَنْ النَّبِيِّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ قَالَ مَنْ عَادَ مَرِيضًا لَمْ يَحْضُرْ أَجَلُهُ فَقَالَ عِنْدَهُ سَبْعَ مِرَارٍ أَسْأَلُ اللَّهَ الْعَظِيمَ رَبَّ الْعَرْشِ الْعَظِيمِ أَنْ يَشْفِيَكَ إِلَّا عَافَاهُ اللَّهُ مِنْ ذَلِكَ الْمَرَضِ

“จากท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านได้กล่าวว่า ผู้ใดที่เยี่ยมผู้ป่วยที่ยังไม่ถึงเวลาเสียชีวิตแล้วเขาก็กล่าว ณ ที่ผู้ป่วย 7 ครั้งว่า อัสอะลุลลอฮัลอะซีม ร็อบบัลอัรชิลอะซีม อัยยัชฟิยะก้าเว้นแต่อัลเลาะฮ์จะให้เขาหายจากโรคป่วยดังกล่าว”

รายงานโดยอะบูดาวูด, อัตติรมีซีย์, และอัลฮากิม, และท่านอัตติรมีซีย์กล่าวว่า หะดีษนี้หะซัน, อัลอัซการ, หน้า 114

ท่านหญิงอาอิชะฮ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮา ได้กล่าวว่า

أَنَّ النَّبِيَّ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ كَانَ يُعَوِّذُ بَعْضَ أَهْلِهِ يَمْسَحُ بِيَدِهِ الْيُمْنَى وَيَقُولُ اللَّهُمَّ رَبَّ النَّاسِ أَذْهِبْ الْبَأْسَ اشْفِهِ وَأَنْتَ الشَّافِي لَا شِفَاءَ إِلَّا شِفَاؤُكَ شِفَاءً لَا يُغَادِرُ سَقَمًا

“แท้จริงท่านนะบีย์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ขอการปกป้องคุ้มครองให้แก่ภรรยาบางคนของท่าน โดยท่านใช้มือขวาลูบ และกล่าวว่า อัลลอฮุ้มม่า ร็อบบันนาสี้ อัซฺฮิบิลบะอฺซ่า อิชฟิฮี้ วะอันตัลชาฟี ลาชิฟาอ้า อิลลา ชิฟาอุ้ก้า ชิฟาอัน ลา ยุฆอดิรุ่ ซะก่อมัน”

รายงานโดยอัลบุคอรีย์, ฮะดีษลำดับที่ 5743, และมุสลิม, ฮะดีษลำดับที่ 2161

ขอดุอาอฺให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงที่ไม่ใช่มุสลิมได้หรือไม่?

การขอดุอาอฺต่ออัลลอฮฺให้พระองค์อภัยโทษต่อความผิดบาปของ “คนที่ไม่ใช่มุสลิม” นั้นเป็นสิ่งที่หะรอม (ห้าม)และการขอดุอาอฺให้กับ “กาเฟรฺ” และ “ผู้ที่ “อิสลามของเขา” มีความน่าเคลือบแคลงสงสัย” หรือแม้แต่พ่อแม่ (ที่เป็นกาเฟรฺ) ในเรื่องของโลกหน้า ก็เป็นสิ่งที่หะรอมแต่การขอดุอาอฺให้เขาได้รับการเยียวยาจากความเจ็บป่วย เช่นนี้เป็นสิ่งที่อนุมัติให้กระทำได้หากมันสอดคล้องกับจุดประสงค์ เช่นว่า หากเรามีความหวังว่า “เขา” จะเข้ารับอิสลามเป็นมุสลิมและหัวใจของเขาจะอ่อนโยนขึ้น เป็นต้น

ซึ่งมีการรายงานไว้ในหะดีษของเศาะฮาบียฺที่อ่านรุกยะฮฺให้กับหัวหน้าชนเผ่าคนหนึ่งที่ถูกแมลงป่องกัด

แน่นอนว่า มันเป็นสิ่งที่อนุมัติให้กระทำได้ในการที่คุณจะไปเยี่ยมเยียนเขาขณะที่เขาป่วย เพราะเวลาที่คนคนหนึ่งกำลังเจ็บป่วย หัวใจของเขาจะอ่อนโยนขึ้นและค่อนข้างที่จะน้อมรับสัจธรรมได้มากกว่า (ช่วงเวลาปกติ) ท่านเราะสูล ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัมเคยมีเด็กรับใช้ชาวยิวคนหนึ่งที่ให้การปรนนิบัติรับใช้ท่าน ซึ่งเขาเกิดป่วยขึ้นมา

ดังนั้นท่านเราะสูลจึงเข้าไปเยี่ยมเขา โดยที่ท่านนั่งอยู่ใกล้ๆ ศีรษะของเขาและกล่าวต่อเขาว่า “จงเปลี่ยนมาเป็นมุสลิมเสีย” เขาจึงมองหน้าบิดาของเขาที่อยู่ตรงนั้นด้วยเช่นกัน จากนั้นบิดาของเขาก็บอกต่อเขาว่า “จงเชื่อฟังอบูล กอซิม (ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม) เถอะ”

ด้วยเหตุนี้เขาจึงเข้ารับอิสลาม และท่านเราะสูลก็ออกไปจากที่นั้นพร้อมกับกล่าวว่า “การสรรเสริญเป็นของอัลลอฮฺผู้ซึ่งทรงปกป้องเขาไว้จากไฟนรก”

(รายงานโดยบุคอรียฺ 1356)

ที่มา: มหัศจรรย์อัลกุรอ่าน